มาทำความรู้จักปราสาท/ปราการ แห่งเวสเทอรอสกัน

ตอนนี้มาพักค้างคืนที่ปราการศิลาแล้วคับ บรรยากาศดีมากคาดว่าจะรวบรวมเสร็จในไม่ช้า

2. Casterly Rock / ปราการหินคาสเทอร์ลี

ปราการหินคาสเทอร์ลีมีชื่อเล่นว่า ศิลา, ปราการศิลา (The Rock)
เป็นที่มั่นแห่งตระกูลแลนนิสเตอร์ เมืองหลวงของแคว้นตะวันตก ปราการที่พิทักษ์ทะเลอัศดง (Sunset sea) และเมืองท่าแลนนิสพอร์ท

จากชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแต่เดิมปราการหินคาสเทอร์ลีเป็นที่มั่นของตระกูลคาสเทอร์ลีตั้งแต่สมัยปฐมบุรุษ (เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในกษัตริย์ยุคแรกๆ ที่ปกครองแคว้นตะวันตก) แต่ได้เสียให้แก่แลนน์ผู้มากเล่ห์ที่ตามลำนำที่ขับร้องกันเล่าว่า แลนน์อาศัยเพียงปัญญาในการขโมยปราสาทนี้จากตระกูลคาสเทอร์ลี และเชื่อกันว่าตั้งแต่นั้นตระกูลของแลนน์ก็ปกครองดินแดนตะวันตกในฐานะราชาแห่งศิลา จนกระทั่งถูกพิชิตโดยชาวแอนดัลและรวมเชื้อสายของตระกูลเข้ากับตระกูลแลนนิสเตอร์

ปราการหินคาสเทอร์ลียังไม่เคยถูกตีแตกมาก่อน ได้ชื่อว่าหนึ่งในปราสาทที่ไม่มีวันตีแตก และหนึ่งในปราสาทที่แข็งแกร่งที่สุดในเวสเทอรอส

ปราการหินคาสเทอร์ลีตั้งอยู่บนเนินเขา/ภูเขาสูงทางชายฝั่งตะวันตก สามารถมองเห็นทะเลอัศดงและเมืองท่าแลนนิสพอร์ทได้อย่างชัดเจน มีเส้นทางสำคัญสามเส้นทางมาบรรจบกันที่ปราการหิน (และเมืองท่าแลนนิสพอร์ท) คือ 1. สมุทรมรรคา / ocean road, searoad เส้นทางสายใต้ที่มาจากไฮห์การ์เดน 2. สุวรรณมรรคา / gold road เส้นทางสายตะวันออกที่มาจากคิงส์แลนดิ้ง และ 3. ธารามรรคา / river road เส้นทางสายเหนือที่มาจากริเวอร์รัน

ภาพปราการหินคาสเทอร์ลีและเมืองท่าแลนนิสพอร์ท ริมทะเลอัศดง


​

ลุงมาร์ตินบอกเองว่าปราการหินคาสเทอร์ลีได้รับแรงบันดาลใจจาก Rock of Gibraltar (ช่องแคบยิบรอลต้าถ้ายังจำกันได้สมัยเรียนมัธยม พวกที่อ้างตัวว่าอายุน้อยไม่น่าจะลืมนะครับ )

ส่วนอันนี้เป็นปราสาท Mussomeli ในอิตาลี ซึ่งคล้ายกับ Casterly Rock มากๆ


​

ว่าด้วยตัวลักษณะของปราการหินคาสเทอร์ลีเองนับว่ายิ่งใหญ่ตระการตามาก (ต้องมาเห็นเองแล้วจะประทับใจแบบผม <<--- แอบโม้) ตัวปราสาทสร้างโดยการแกะสลัก/สกัด/เจาะ ลงไปบนหินขนาดใหญ่บนเนินเขา (ถ้านึกภาพไม่ออกจะขอยกเมืองเพตราแห่งจอร์แดนมาให้เห็น) ทำให้ตัวปราสาทมีปราการธรรมชาติให้ตัวเอง แล้วปราการหินคาสเทอร์ลียังขุดเจาะเขาไปเป็นห้องต่างๆ ซึ่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อกัน

ภาพนครเพตรา แห่งจอร์แดน

​

ปราการหินแห่งนี้เป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวสเทอรอสเป็นอันดับสองรองจากฮาเรนฮอลล์ครับ หอกลาง (Keep) ขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขา และเหมืองทองคำที่มั่งคั่งที่สุดในเวสเทอรอสอยู่ใต้เนินเขาแห่งนี้ครับ จึงเป็นที่มาของการกล่าวว่าไทวินฮึเป็นทองคำ เพราะส้วมอยู่บนยอดเขา แต่เหมืองอยู่ใต้เขานั่นเอง

​

มีห้องนิรภัย (key room) สามห้องที่สำคัญด้วยกัน คือ ห้องสุวรรณ / Golden Gallery, ห้องปากสีหราช / The Lion's Mouth และ โถงแห่งผู้กล้า / the Hall of Heroes ซึ่งทั้งสามห้องมีไว้สำหรับฝังศพของตระกูลแลนนิสเตอร์และญาติที่ใกล้ชิดที่ตายอย่างอาจหาญ

The Hall of Heroes
​

มีสวนศิลา / Stone Garden ซึ่งมีต้นเวียร์วูดเป็นต้นดวงใจ และต้นนี้มีขนาดใหญ่กว่าต้นเวียร์วูดที่ Raventree Hall (แห่งตระกูลแบล็ควูดซึ่งนับถือทวยเทพองค์เก่า) ถึงสิบเท่า

จบการทัวร์ปราการหินคาสเทอร์ลีร็อคแค่นี้นะครับ ต่อไปแวะเมืองท่าแลนนิสพอร์ทก่อนล่องเรือไปหมู่เกาะเหล็กไหลกัน

3. Lannisport / เมืองท่าแลนนิส

​

หลังจากจีน่า แลนนิสเตอร์คนงามได้ส่งผมลงจากปราการหินคาสเทอร์ลีร็อคอย่างปลอยภัย ผมก็ขอพักหลังซักหน่อยที่เมืองท่าแลนนิสพอร์ท

แลนนิสพอร์ทเป็นหนึ่งในห้ามหานครของเวสเทอรอส และน่าจะมีจำนวนประชากรมากและขนาดใหญ่เป็นลำดับที่สาม

ตระกูลแลนนิสเตอร์แห่งแลนนิสพอร์ทเป็นผู้ปกครองเมือง รวมถึงเครือญาติผมทองทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Lannys, Lannetts, Lantells เป็นต้น

กองเรือรบทั้งหมดแห่งตระกูลแลนนิสเตอร์ตั้งอยู่ที่มหานครแห่งนี้ ในขณะที่หน่วยนครบาลของนครมีชื่อเสียงในเรื่องการฝึกฝนและประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับคิงส์แลนดิ้งหรือโอลด์ทาวน์

เช่นเดียวกับปราการหินคาสเทอร์ลี มีถนนสามสายมาบรรจบกันที่แลนนิสพอร์ท คือ สุวรรณมรรคา, สมุทรมรรคา และธารามรรคา

ว่ากันด้วยลักษณะของตัวเมืองกันบ้าง เมืองท่าแลนนิสเป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ เนื่องจากเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องทองคำจึงต้องมีการป้องกันดีสักหน่อย
แลนนิสพอร์ทได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงามมาก แน่นอนว่าแลนนิสเตอร์คงไม่เอาทองคำที่มีมากมายไปหมักหรอก มันต้องเอามาบูรณะเมืองในยิ่งใหญ่กว่าใครๆ ในเวสเทอรอสอยู่แล้ววว
ภาพของเมืองที่ผมเห็นชวนนึกถึงวาติกันเอามากๆ โดยเฉพาะภาพจาก minecraft

​

มาว่ากันที่ประวัติอันเกี่ยวข้องกับเมืองนี้บ้างซึ่งก็มีเรื่องราวพอสมควรที่เดียว

เริ่มกันที่ กบฐแบล็กไฟร์ ลอร์ดเลฟฟอร์ดแห่งโกลด์เดนน์ทูธถูกเซอร์ควินติน บอลล์สังหารที่หน้าประตูเมือง ลอร์ดเดมอน แลนนิสเตอร์ฝ่ายศึกจนต้องถอยไปตั้งหลักที่คาสเทอร์ลีร็อค

ฤดูใบไม้ผลิแห่งโรคภัย เมืองนี้ก็ได้รับผลกระทบทำให้มีคนตายจำนวนมาก

กบฐเกรย์จอย ชาวหมู่เกาะเหล็กเผากองเรือรบของแลนนิสเตอร์เกือบเหี้ยนหมด และภายหลังราชาโรเบิร์ตชนะสงครามได้จัดงานประลองเพื่อแสดงชัยชนะที่แลนนิสพอร์ท เซอร์จอร่าห์ มอร์มอนต์เป็นผู้ชนะและได้วิวาห์กับลีเนสเซ ไฮท์ทาวเวอร์

คนสมัยก่อนเก่งครับ
แต่ Mussomeli นี่ก็อาจจะไม่มหัศจรรย์มากเท่าเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนะครับ

คงอีกนานเลยครับพอดีผมเปลี่ยนสารบัญใหม่คงเดินทางท่องตะวันตก ขึ้นเหนือก่อนจะลงมาตะวันออกครับ
ระหว่างนี้ก็หย่อนใจไปกับทางฝั่งตะวันตกก่อนแล้วกันนะครับ

ไม่มีการระบุครับว่าแลนน์เป็นบรรพบุรุษของตระกูลอะไร แต่เชื่อว่าเชื้อสายของแลนน์ปกครองในฐานะกษัตริย์แห่งศิลา ก่อนการมาของแอนดัล (ตรงนี้อาจมีตระกูลอื่น เช่น คาสเทอร์ลี ปกครองด้วยฐานะกษัตริย์เหมือนกันก็เป็นได้) และตระกูลแลนนิสเตอร์ของชาวแอนดัลได้ยกมารุกรานและวิวาห์กับธิดาของราชาแห่งศิลา ดังนั้นเชื้อสายของแลนนิสเตอร์จึงสืบสายมาจากแลนน์ผ่านทางบรรพสตรีครับ และได้แต่งเรื่องว่าแลนน์ขโมยแสงอาทิตย์มาใส่เส้นผมจนกลายเป็นสีทองแบบแลนนิสเตอร์ ซึ่งเว่อร์สิ้นดี

ประวัติแบบละเอียด (ละเอียดรึเปล่านะ?) อยู่ในกระทู้เก่าของผม เชิญลองไปอ่านได้ครับ
http://gameofthronesfansite.com/threads/701/

ต้องกลับไปดูข้อความแรกในหน้าแรกสุดเลยครับ ผมตั้งสารบัญไว้แล้วครับ แต่ท่าทางจะนานครับเพราะทัวร์ตะวันตกจบก็ขึ้นเหนือไปผากำแพงกว่าจะลงมาถึงสตอร์มเอนด์ก็นานน่าดูเลยครับ

ระหว่างนี้ทัศนาที่อื่นๆ ไปก่อนนะครับ

ตอนนี้เดินทางมาถึง Fair Isle
สถานที่นี้ตอนเกิดสงครามกบฎของเกรย์จอย แสตนนิสได้โชว์เทพ (คู่กับแพ็กตัน เรดไวน์) จมกองเรือของสามพี่น้องยูรอน วิคทาเรียน และเอรอนซะราบ

​

ตอนนี้ล่องเรืองมาครึ่งทางไปไพค์แล้วคิดถึงเหล่าสหายเมื่อครั้งเยาว์วัยยิ่งนัก

​

ส่วนตัวเจ้าของเรืออย่างคุณนิว ( @Źéńőń ) แม้ไม่เห็นหน้าแต่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง

ระวังโดนชาวเกาะเหล็กปล้นนะครับ พกดาบกันด้วยน่อ