SS 4 spoil/แปล - GoT ขายวิญญาณให้ Hollywood แล้วหรือ?

กระทู้จากหมวด "พูดคุย Game of Thrones" โพสต์โดย สุนัขป่าโลกันตร์, 20 มิถุนายน 2014.

  1. http://www.dailydot.com/opinion/game-of-thrones-sold-soul-hollywood/

    เป็นบทความที่ผมว่าน่าสนใจ
    เตือนว่า SPOIL หนัก สำหรับใครที่ยังอ่านเล่ม 3 ไม่จบ หรือยังไม่ได้ดูซีซัน 4

    2014-06-20_0801.png

    ซีซัน 4 ของซีรีส์ดังจาก HBO ปิดฉากไปอย่างสำเร็จล้นหลาม แต่ความสำเร็จนี้กลายเป็นชนวนถกเถียงกันว่ามันมีความหมายอย่างไรต่อนวนิยายต้นแบบ A Song of Ice and Fire

    แม้ตอนจบซีซันจะมีผลให้กลุ่มผู้ชมที่ไม่เคยอ่านหนังสืออยู่ในห้วงชื่นชม (ซึ่งกลุ่มผู้อ่านบนเนต เรียกล้อว่า พวก"ไร้มลทิน") แต่แต่สำหรับนักอ่านผู้อยู่คู่กับโลกเวสเทอรอสมานานนั้น พวกเขามีแต่ความโกรธา เสียงตอบรับมีให้เห็นอย่างชัดเจนบน Twitter ซึ่งคำว่า "Lady Stoneheart" กำลังขึ้นเทรนอย่างรวดเร็ว

    แฟนนักอ่านล้วนคาดหวังให้ซีซันทิ้งท้ายด้วยการแย้มเลดี้สโตนฮาร์ทให้ผู้ชมได้เห็น ซึ่งน่าจะตอกย้ำความทรงจำของผู้ที่ไม่ได้อ่านถึงเหตุการณ์วิวาห์สีชาดและสร้างความตื่นเต้นอย่างไม่อาจวัดได้สำหรับปีหน้า มันดูเป็นเสี้ยววินาที "เย้ดเข้" ที่สมบูรณ์ไร้ที่ติเสียเหลือเกิน เพราะในหนังสือเล่ม 3 เองก็ปิดท้ายด้วยการเผยตัวเลดี้สโตนฮาร์ทเช่นกัน

    อาร์ยาล่องเรือไปบราวอส... ถามจริงใครตื่นเต้นบ้าง

    (ตัวอย่าง twitter ลองดูจากเวบต้นแบบ)

    ทว่าความโกรธเกรี้ยวเรื่องเลดี้สโตนฮาร์ทนั้นกำลังปิดบังปัญญาที่ใหญ่กว่าเอาไว้ - การเปลี่ยนสัญชาติ Game of Thrones เป็นชาว Hollywood

    ถ้าคุณเคยชม(อ่าน)บทสัมภาษณ์ GRRM ผู้แต่ง A Song of Ice and Fire คุณจะรู้ว่าอาชีพหลักของเขาคือการเขียนบทให้โทรทัศน์และ Hollywood โดยสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่เนื้อเรื่องของเขาถูกเอาไปปรับเปลี่ยนตามอำเภอใจ

    “เครือข่าย และสตูดิโอ - 2 อย่างนี้คือดาร์ธเวเดอร์ที่วันดีคืนดีก็จะส่ง force ลงมายำบทและยำรายการของคุณ บังคับทำโน่นทำนี่... มันน่าเซ็งโคตรๆ” นวนิยายของเขานับว่าปลอดภัยจากเงื้อมมือของ Hollywood ดี หากตัวละครดังอย่างทีเรียน แลนนิสเตอร์ ทำอะไรที่ขัดกับศีลธรรม เขาไม่จำเป็นต้องแก้ไข มันไม่มีผลต่อเรตติ้ง

    ทว่า ซีรีส์ Game of Thrones ตกเป็นเหยื่อของแรงกดดันเหล่านี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ขอยกตัวอย่างซีนจากตอนล่าสุด เมื่อทีเรียนสังหารเชอดีตคนรักของเขา
    - ในหนังสือ ทีเรียนลงมือสังการเชโดยการรัดคอเมื่อเห็นหล่อนอยู่บนเตียงของบิดา
    - ในซีรีส์ เชคว้ามีดขึ้นมาจู่โจมทีเรียนโดยไม่ให้โอกาสเขาได้พูดอะไร
    การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวล้างเลือดจากมือทีเรียนอย่างสิ้นเชิง และทำให้ทีเรียนเปลี่ยนจากสีเทาเข้มในหนังสือ กลายเป็นสีขาวบริสุทธ์ในซีรีส์

    อีกตัวอย่างหนึ่งคือในหนังสือเล่ม 2 เมื่อทีเรียนเป็นราชหัตถ์ เซอร์ซีลักพาตัวโสเภณีที่นางเชื่อว่าเป็นคนรักของทีเรียนไป แม้ว่าเซอร์ซีจะจับผิดคน แต่ทีเรียนก็ปกป้องด้วยการ ลักพาตัวทอมมิน - ผู้เป็นหลานแท้ๆ ของทีเรียน - แล้วขู่เซอร์ซีว่าสิ่งที่นางทำกับโสเภณี เขาจะทำกับทอมมินด้วย ไม่เว้นแม้แต่การข่มขืน

    มันเป็นเนื้อหาที่รุนแรงจนแทบอ้าปากค้างและทำให้มันยากมากที่ผู้ชมจะเชียร์ทีเรียนสุดใจ เนื้อหาดังกล่าวปรากฏในซีรีส์เพียงกึ่งหนึ่งเท่านั้น -- เซอร์ซีมีการจับโสเภณีผิดตัวจริง แต่ทีเรียนไม่ได้ทำอะไรเลย ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นพระเอกละครเศร้าผูู้ถูกรังแกจนผู้ชมยิ่งเห็นใจเขาขึ้นไปอีก ...ก็นั่นแหละ ผู้ผลิตซีรีส์จะปล่อยให้ทีเรียนผู้เป็นขวัญใจผู้ชมต้องคะแนนตกฮวบฮาบด้วยการให้เขาสำแดงอิทธิฤทธิ์ด้านมืดแบบในหนังสือได้ยังไง? จะให้นักแสดงที่ช่วยเพิ่มเรตติ้งและชนะรางวัลเอมมีทำแบบนั้นได้ยังไง?

    สิ่งเหล่านี้แหละคืออิทธิพลของ Hollywood ที่กำลังฆ่านวนิยาย A Song of Ice and Fire ซึ่งเขียนขึ้นมาให้เต็มไปด้วยความขัดแย้ง

    “เวลาคุณอ่านหนังสือ หรือชมรายการโทรทัศน์ หากมีตัวเอกและตัวร้ายซึ่งฝ่ายหนึ่งขาวฝ่ายหนึ่งดำ ทุกคนก็จะมีปฏิกริยาเหมือนกันหมด - โอ้ เราชอบพระเอก เราเกลียดตัวร้าย แบบนั้นน่ะมันท่อนไม้”

    มาร์ตินยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความเทาของตัวละครอีกว่า

    “การต่อสู้ระหว่างความดีความชั่วไม่มีอะไรผิดหรอก มันเป็นสากล ไม่ใช่แค่สำหรับแฟนตาซีแต่รวมถึงเรื่องแต่งทุกเรื่อง ทว่าผมมีแนวคิดมาเสมอว่าความดีความชั่วเหล่านั้นมันต่อสู้กันอยู่ในหัวใจของมนุษย์แต่ละคน เราทุกคนสามารถเป็นคนดี และเราทุกคนก็สามารถเป็นคนเลวเช่นกัน คนคนเดียวกันนั้นอาจทำดีวันนึงแล้วทำเลวอีกวันนึงก็ได้ หากคุณอ่านเรื่องราวของวีรบุรุษในสงครามผู้ช่วยชีวีตทหารไว้ทั้งหน่วย เขามีความกล้าหาญอย่างยิ่ง แล้วเขาก็กลับบ้านไปตบตีลูกเมีย... คุณจะรับเรื่องนี้ยังไง?”

    รายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ไม่มีผลต่อ Game of Thrones เลย มันกลายเป็นรายการที่คนดีจำเป็นต้องรักษาความดีอย่างเสมอต้นเสมอปลายเพื่อไม่ให้สะกิดต่อมไม่พอใจของผู้ชมทางบ้าน รายการที่อาร์ยากับหมาล่าเนื้อกลายเป็นสองพ่อลูกผจญภัยเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในโลกที่แหลกสลายและไร้ความสุขจากสงคราม รายการที่แรมซี สโนว์ สามารถต่อสู้โดยไม่ต้องสวมเพราะ หรือกระทั่งเสื้อ เพราะการโชว์หุ่นล่ำผู้ชายมีความสำคัญ รายการที่จอน สโนว์ สามารถจ้องตา โอบกอด และจูบลาคนรักของเขาได้กลางสมรภูมิที่มียักษ์กำลังอาละวาดและลูกศรบินว่อนทั้งซ้ายขวา เพราะนั่น คือวิถีแห่ง Hollywood ดินแดนซึ่งความสมจริงเบือนหน้าหนี

    David Benioff และ Dan Weiss ผู้จัดทำซีรีส์ Game of Thrones ไม่ได้กำลังเล่าเรื่องราวเดียวกันกับนวนิยาย A Song of Ice and Fire อีกต่อไปแล้ว แต่กำลังเล่าเรื่องที่ระดับต่ำชั้นกว่า, กลายพันธุ์, เห็นแก่เงิน และเต็มไปด้วยแนวคิดที่น่ารักเกียจ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ GRRB เขียนนวนิยายของเขาขึ้นมาในทีแรก

    ปล. บทสัมภาษณ์ที่พูดถึงในบทความ
    Last edited: 20 มิถุนายน 2014
    oakhyco, Źéńőń, plakinmek และอีก 13 คน ถูกใจข้อความนี้
  2. Hodor is coming

    Hodor is coming ราชองค์รักษ์

    เสียดายเสี้ยววินาที"เย้ดเข้"เหมือนกันขอรับ ถ้าในซีรีย์แพลมๆเจ๊สโตนฮาร์ทกับไม่ตัดบททิชาไป มันจะดีกว่านี้มากๆๆ

    ส่วนเรื่องขายวิญญาณให้ hollywood จะจริงเท็จยังไง ก็ขอเป็นกำลังใจให้ลุงและทีมงาน ถ้าขายวิญญาณไปแล้วก็ขอให้ซื้อคืนกลับมา อยากเห็นอยากดูซีรีย์ที่ตัวละครมีความเป็นมนุษย์จริงๆไม่ดำ ไม่ขาว อย่างเรื่องนี้ต่อไปอีกนานๆ เพราะสำหรับกระผม ถึงซีรีย์จะทำให้ทีเรียนเป็นเทาเข้มๆแบบในหนังสือ กระผมก็ยังเชียร์และเอาใจช่วยอยู่ดี ...ขอพลังจงสถิตกับลุงขอรับ
    Polarbear และ plakinmek ถูกใจข้อความนี้
  3. Fangiris

    Fangiris ราชองค์รักษ์

    จริงนะคะ เราเองยังงงว่าตอนล่าสุดทำไมทีเรียนไม่พูดกับเจมี่เรื่องเซอร์ซี่ แล้วก่อนหน้าก็ไม่มีคุยกันเรื่องทิชาด้วย 2เรื่องนี้มันเป็นเหตุจูงใจของเหตุการณ์สำคัญเลยด้วย แล้วไหนจะเอาเบรียนไปจัดกับเดอะฮาวอีก

    ถ้าคิดว่ากลัวแฟนๆจะหายเพราะตัวดีไม่ดีพอ ตัวร้ายก็ร้ายเกินไปล่ะก็ เราว่ามันไม่ใช่ละ ส่วนตัวเราทั้งอ่านและดู และชอบความเทาของตัวละครที่ลุงสร้างขึ้นมานะ เปลี่ยนบางฉากให้ดูน่าตื่นเต้นเช่น ฉากรบที่กำแพง มีปล่อยสมอ ฉากแดนี่ยึดมีรีนมียิงปลอกคอเข้าไป อันนี้เราเห็นด้วยนะ เพิ่มให้มันดูโอเคขึ้น แต่ถ้าจะเปลี่ยนอะไรที่เกี่ยวกับการตัดสินใจของตัวละคร และทำให้คนที่ไม่ได้อ่านกับคนอ่านเข้าใจตัวละครคนนึงไม่เหมือนกันนี่เราว่าแย่นะ เค้าใช้เวลาเขียนเกือบค่อนชีวิต ถ้าเป็นความต้องการของลุงก็โอเคเป็นสิทธิของเค้า

    ขอร่วมเสียดายกับเสี้ยววินาทีเย็ดเข้ด้วยคนค่ะ ถ้าโผล่มาซัก5วินี่ มีลงแดงตายอ่ะ กว่าจะถึงปีหน้า
    plakinmek, Gutter13, CherryBoy และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  4. Daisy

    Daisy ทหารม้า

    เฮ่อร์ เราก็เซงนะคะอยากให้ Lady Stoneheart มา
    ดูมาทั้งภาค รอดูนางคนเดียวนะคะ รักนางตั้งแต่เป็น Catelyn แล้ว
  5. OrdinaryDecentCriminal

    OrdinaryDecentCriminal อัศวิน

    รายการทีวี ก็คือรายการทีวี คงต้องทำเพื่อเรตติ้ง ถ้าเรตติ้งไม่ดี เราจะได้ดูถึงซี่ซั่น 4 เหรอครับ?? มันมีข้อจำกัดมากมาย ไม่เหมือนในหนังสือ ที่จินตนาการไปได้ไกล ไม่มีงบจำกัด ไม่มีเวลาจำกัด ไม่มีใครคอยมาบังคับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปลายปากกาของคนเขียน จะว่าๆ George R.R. Martin ขายวิญญานให้ Hollywood ก็คงไม่ได้ เพราะสิทธิ์ในการถ่ายทำ ไม่ได้เป็นของเค้าคนเดียว แฟนหนังสือ GOT ก็อาจจะมีผิดหวังบ้าง กับบางฉาก

    รายการทีวีก็ทำเพื่อคนดูทีวีครับ ไม่ได้ทำเพื่อคนที่อินกับหนังสือ (แต่หลายๆอย่างที่เปลี่ยนแปลงในทีวีผมก็ชอบกว่าในหนังสือนะ)

    - ตัวละครทีเรียนในหนังสือ จะมีหน้าตาน่าเกลียดกว่าในทีวีมากนัก (นักแสดง Peter Dinklage ผมว่าเค้าหน้าตาดีนะ ทำให้ผู้ชมหลงรักได้ไม่ยาก) แถมหลังจากสงครามอ่าวทมิฬ จมูกโดนตันออกไปอีกต่างหาก ไม่ใช่มีแค่มีแผลเป็นเท่ๆแบบในหนัง

    - ฉากทีเรียน เข้าหอคืนแรกกับซานซ่า ก็ไม่ได้พระเอกขนาดในทีวี (ตอนอ่านนี่แอบเป็นห่วงซานซ่าเลยทีเดียว 555)

    - ตอนทีเรียนลากับเจมี่ก็ไม่ได้สวยหรูเหมือนในทีวี (คนส่วนมากชอบ Happy Ending แบบในละครทั่วไป ตัวละครต้องขาว ไม่ก็ดำเท่านั้น แต่ใน GOT ส่วนมาก จะสีเทาหมดเลย เหมือนในชีวิตจริงของคนเรา)

    - ฉากเปลือยก็มีบ่อยเกินความจำเป็น (แต่ก็ไม่รังเกียจนะครับ :p)

    - ฯลฯ ทุกสิ่งก็ทำเพื่อเรตติ้ง เพื่อเรตติ้ง เพื่อเรตติ้งที่สูงที่สุด ในงบประมาณที่ต่ำที่สุด คนไม่เคยอ่านหนังสือดูสนุก คนเคยอ่านมาก่อน ก็ได้เติมเต็มจินตนาการหลังจากติดตามตัวหนังสือมาเกือบ 20 ปี
    Last edited: 20 มิถุนายน 2014
    Gisele Paulpachara, Źéńőń, MuzTa และอีก 6 คน ถูกใจข้อความนี้
  6. ติ่งทีเรียน

    ติ่งทีเรียน พลเดินเท้า


    ผมเห็นด้วยนะ รายการทีวีก็ทำเพื่อคนดูทีวี รายการจะอยู่ได้ ก็ต้องคำนึงถึงเรตติ้งด้วย
    Inkyfingers, Gutter13 และ ชาซารี ถูกใจข้อความนี้
  7. Ball

    Ball อัศวินไร้นาย

    ผมโอนะ เหมือนได้ดู got อีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่ต่างกะในหนังสือ

    ซีรี่ย์ได้ความกระชับ หนังสือได้ความลุ่มลึก
    Inkyfingers ถูกใจข้อความนี้
  8. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    ไม่เห็นแปลก ทุกเรื่องโดนหมด แฮรี่ lotr

    เอาหนังไทยอ่างนเรศวรภาค4-5ที่ทำตามประวัติศาสตร์ เพิ่มบทไม่มากคนชอบมั้ย กลับไปชอบภาค2 ที่แต่งบทเพียบ
  9. marizelee

    marizelee อัศวินไร้นาย

    มันให้อารมได้ต่ำกว่าในหนังสือจริงๆนั้นแหละ
  10. keanoob

    keanoob พลเดินเท้า

    อืม..."ภาพยนตร์" กับ "นวนิยาย" มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
    เขาก็บอกว่า "ดัดแปลงจากบทประพันธ์" ตั้งแต่ต้น
    นักเขียนก็มาเป็นที่ปรึกษาให้เอง เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเสียหน่อย
    คนดู 18 ล้านคน คงเอาให้ถูกใจไม่ได้ทุกคนหรอก
    ทีมงานเขาก็ทำดีที่สุดในข้อจำกัดของเขาแล้วละครับ
  11. sirot

    sirot อัศวิน

    เห็นด้วยตามนั้นครับ แต่ก็ยังเป็นห่วงนะ ไม่ได้เป็นห่วงที่เสริม แต่เป็นห่วงที่ตัด บางส่วนต่อให้แค่นิดๆหน่อยๆมันก็ส่งผลต่อทิศทางการตัดสินใจของตัวละครและเนื้องเรื่องในอนาคต ส่วนตัวผมเชื่อว่าทีมงานคงจะสร้างเนื้องเรื่องส่วนที่ถูกตัดไปในอีกรูปแบบหนึ่งในครั้งหน้า คงจะไปคนละทางกันบ้างแต่จุดหมายหลักคงไปจบที่จุดเดียวกับในหนังสือ ซึ่งแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าเหมือนกันหมดทุกกระเบียดมันก็คงน่าเบื่อเกินไปสำหรับคนอ่านแล้ว และคงเปล่าประโยชน์สำหรับคนที่ดูซีรี่ส์ที่จะหาหนังสืออ่าน เหมือนหมดทุกอย่างจะซื้อหนังสือไปทำไมกัน

    ถึงผิดหวังบ้างบางฉากแต่ยังไงก็ติดตามเหมือนเดิมครับ และหวังว่าจะไม่ผิดเพี้ยนไกลเกินไปและคงเอกลักษณ์รสชาติของเรื่องได้เหมือนเดิม

    ปล. Lady Stoneheart นี่คงโผล่มา Prologue ซี่ซั่นหน้า แต่ Coldhands ผมนี่ยังไม่โผล่หัวมาเลยนะ TwT
    Last edited: 20 มิถุนายน 2014
    RickonStark, OrdinaryDecentCriminal และ Gutter13 ถูกใจข้อความนี้
  12. keanoob

    keanoob พลเดินเท้า

    จำหนัง แฮรี่ พอตเตอร์ ภาคแรกได้ไหมครับ
    ซื่อสัตย์จนคนยี้กันทั้งโลก...-___-"
  13. kingmot

    kingmot อัศวินไร้นาย

    ผมเห้นด้วยกับบทความนี้นะ
  14. Notia

    Notia นักดาบฝึกหัด

    เห็นด้วยกับลุง GRRM ครับ

    ส่วนซีรี่ย์ใน season 4 รู้สึกว่าไม่ประทับใจเท่า seasons ที่ผ่านๆ มา เหมือนจะเน้นความอลังการ แต่ไม่ค่อยสมจริง
    อย่างในฉากต่อสู่ที่บางทีใช้มุมกล้องช่วย แต่ทำไม่เนียนเลย เช่น ฉากที่ Brienne รัวกำปั่นใส่ The Hound นี่ เห็นชัดเลยว่าหมัดไม่ถูกตัวด้วยซ้ำ
    ส่วนเรื่องการตัดตัวละคร อย่าง Coldhand และ Lady Stoneheart นี่ผมไม่ติดใจ เพราะคิดว่าส่งผลกับเนื้อเรื่องหลักไม่มาก แล้วคนสร้างก็คงต้องหาทางลดตัวแสดงที่ไม่สำคัญเพื่อลดต้นทุนสร้างอยู่แล้ว แต่การตัดเนื้อเรื่อง background ของ Tyrion นี่ผมคิดว่ามีผลต่อเนื้อเรื่องในทางที่ไม่ดี เพราะทำให้เกิด plot hole ชัดเจน ในหนังสือ Tyrion มีเหตุจูงใจชัดเจนในการแอบกลับไปฆ่า Lord Tywin เพราะ

    ! Spoil สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านจบเล่ม 3
    รู้ความจริงเรื่องที่ภรรยาคนแรก (Tysha ถ้าผมจำไม่ผิด) ไม่ได้เป็นโสเภณีตามที่ Jaime สารภาพ แต่ในซีรีย์ผมมองไม่เห็นว่าอะไรทำให้ Tyrion ตัดสินใจเสี่ยงชีวิตกลับไปที่ห้องของพ่อตัวเองเลย อาจจะพออ้างได้ว่าตัดสินใจฆ่าหลังจากเห็น Shae อยู่บนเตียง แต่เหตุผลที่ย้อนกลับไปที่ห้องแต่แรกก็ยังไม่มีอยู่ดี


    ปล. ผมใส่ tag สปอยแล้วไม่เห็นขึ้น ไม่แน่ใจว่าผมใส่ผิดยังไงครับ รบกวนชี้แนะ กลัวเพื่อนๆ โดนสปอยก่อนอ่านถึง
    Last edited by a moderator: 20 มิถุนายน 2014
    Inkyfingers, Gutter13, ติ่งทีเรียน และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  15. keanoob

    keanoob พลเดินเท้า

    ผมว่า โดยนิสัยทีเรียน คงต้องการกลับไปเคลียร์กับพ่อให้ชัดๆ ก่อนหนี เพื่อไม่ให้คาใจครับ พอเห็นเชย์เลยปรี๊ดแตก (หมายถึงในซีรีส์นะครับ)
    Polarbear และ Notia ถูกใจข้อความนี้
  16. Notia

    Notia นักดาบฝึกหัด

    ตอนแรกผมก็คิดอย่างนั้นครับ แต่ถ้า Tyrion คิดงั้นจริงก็เท่ากับตัดโอกาสที่ตัวเองจะหนีได้รึป่าวครับ เพราะ Tywin แค่ตะโกนเรียกยามมา Tyrion ก็หมดโอกาสหนีแล้ว
  17. DeathWolf

    DeathWolf พลเดินเท้า

    หน้าไม้อจ่อหน้าขนาดนั้นไทวินไม่กล้าส่งเสียงหรอกครับเพราะถ้าดูในซีรีสไทวินออกจะกลัวตายอยู่นะ(พยายามกล่อมทีเรียนอย่างชัดเจนแต่ใช้คำพูดผิดไปนิดนึง) ส่วนการทำซีรีสผมเข้าใจนะเพราะหนังสือให้เทวดาขนาดไหนมาทำซีรีสแล้วเรตติ้งห่วยนายทุนเขาไม่สนหรอกครับ ที่สำคัญซีรีสอเมริกานั้นแข่งกันดุเดือดจะตาย มีให้เห็นอยู่บ่อยที่ซีรีสจะโดนตัดจบหรือเกิดใหม่(บางเรื่องโผล่มาซีซั่นเดียวไม่ทันครบแล้วต้องจอดป้ายก็มี)เพราะฉะนั้นแล้วการทำให้เรตติ้งอยู่ได้พร้อมตรงตามหนังสือนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ
  18. สปอย ไม่ต้องเว้นที่ใน [ sp ] นะครับ พิมพ์ติดกันเลย
    Notia ถูกใจข้อความนี้
  19. KORNE

    KORNE อัศวิน

    นิยาย กับ หนัง ไม่เหมือนกัน
    มีคนเคยบอกว่าเวลาดูหนัง ลองตัดหนังสือที่เราอ่านออกจากหัว
    ลองเป็นคนที่เหมือนไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรมันมาก่อน
    แล้วนั่งดู หากหนังมันสนุก คือ มันสนุก

    สำหรับเรา GOT ทำออกมาดีมากๆแล้วนะคะ เราชอบ และตามอ่านหนังสือทีหลังอะ
    คือ บอกตัวอย่างเลวๆให้ฟัง

    หากเทียบกับ...Dragonball Evolution ที่ Hollywood เอาไปทำเป็นหนัง...

    [​IMG]

    ขอบอกเลยว่า....Dragonball Evolution
    เป็นการที่อเมริกาหยามญี่ปุ่นที่รุนแรงที่สุด
    รองจากเหตุการณ์ฮิโรชิม่า พูดเลย -"-

    [​IMG]
    Inkyfingers, CherryBoy, Ahura และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  20. ดูเรื่องดราก้อนบอลด้วยเหรอครับ หูว...
  21. kasuika255

    kasuika255 นักดาบฝึกหัด

    john snow เทาด้วยอ๋อ

    นึกว่าขาว -..-
  22. OrdinaryDecentCriminal

    OrdinaryDecentCriminal อัศวิน

    คนที่ดำๆมีหลายคนครับ เช่น จอฟฟรี แรมซี่ (เผลอๆ 2 คนนี้เทา) The mountain (อีตานี่ ดำสนิท) แต่คนที่ขาวววววว ใสสะอาด ซื่อบริสุทธิ์ ผมนึกไม่ออกจิงๆ
    Inkyfingers ถูกใจข้อความนี้
  23. Ahura

    Ahura พลเดินเท้า

    อันดับแรกเลย ผมฟังมาว่าซีรี่ส์นี้โดนแฟนๆ คนดูวิจารณ์ว่า น่าจะทำฉาก epic ให้มากๆหน่อย เพราะอย่างใน SS1 โดนด่ามาก ที่อยู่ๆเจมี่ โดนจับไปแบบไม่ได้โชว์อะไรเลย (รวมทั้งร็อบด้วย) พอมา SS2 เลยเพิ่มฉาก Black Water Bay เข้ามาใน Ep9 ซึ่งเป็นที่ฮือฮากันค่อนข้างมากครับ เป็นซีรี่ส์เรื่องแรกๆเลย ที่มีฉากสงครามใหญ่ขนาดนี้ และทำให้ SS3 และ SS4 หาจุดลงสลอตทีวีได้ง่ายขึ้นมาก

    เอาจริงๆ พวกเราเองที่ทั้งดู ทั้งอ่าน บางทีก็มีแอบบ่นว่ามังกรออกน้อย เอฟเฟคไม่เยอะ ซึ่งพวกนี้มันก็ผลาญงบทั้งนั้น
    ทีนี้พอเขาเพิ่มงบด้าน CG สิ่งที่ต้องลดมา ก็ไปลงที่ค่าตัวนักแสดง เท่านั้น
    ค่าตัวนักแสดง ก็พุ่งพรวดๆๆ ตามความดังของซีรี่ส์เช่นกัน อย่าง คิต แฮริงตั้น , เอมีเลีย คล้าร์ก , โซฟี เทอร์เนอร์ หรือ เมซี่ วิลเลี่ยมส์ พวกนี้ซีซั่นแรกไม่รู้ค่าตัวเท่าไหร่ โนเนมมากๆ แต่พอมาตอนนี้ เชื่อว่าขึ้นกันมากมายหลายเท่า (คิดว่าเขาไม่เซ็นต์กันถึง SS4 แน่นอนครับ เพราะมนมีความเสี่ยงที่จะโดนตัดจบ ฉายไม่ถึง 4 ปี เดาว่าคงเซ็นต์กันช่วงแรกๆ ปีต่อปี แต่หลัง SS2 คงเซ็นต์ยาว ซึ่งค่าตัวก็พุ่งกันไปแล้ว)

    ดังนั้น ตัดได้เป็นตัดครับ.... SS4 เราจึงไม่ได้เห็นทั้งเก็นดรี้ พวกแก็งค์พันธมิตรไร้ธง หรือพวกเกรย์จอย (มีอาช่า/ยาร่า โผล่มาหน่อย) หรือแม้แต่ เควาน แลนนิสเตอร์ โผล่หน้าโผล่ตามาเลยสักวินาทีเดียว

    อันนั้น เรื่องของตัวละครที่หลายคนเย็ดเข้กันน่ะครับ

    ส่วนเรื่องทีเรี่ยน อันนี้ผมไม่เข้าใจอย่างมาก เพราะเอาตามความรู้สึกคนดูที่ไม่อ่าน จะมองว่าทีเรี่ยนไม่น่าโหดถึงขนาดต้องไปฆ่าพ่อ!
    1) ทีเรียน ถูกทำให้ "สะอาด" เกิน และเป็นพระเอกเกินครับ การเดินดุ่ยๆไปฆ่าพ่อ มันดูไม่ดีมากๆ (มีโอกาสหนีอยู่แล้ว ต่างคนต่างไปก็ได้)
    2) จากข้อ 1 ผมว่า ถ้าทีเรี่ยน มีปมเรื่องภรรยาคนแรก มันจะมีความ "แรง" และอิมแพ็คพอที่จะเกิดอารมณ์ชั่ววูบ เดินดุ่ยๆไปยิงพ่อได้
    3) ผมอยากให้ไทวิน ดูกวน กร้าว และชวนให้ยิงทิ้งมากกว่านี้ มันจะทำให้ การเหนี่ยวไกของทีเรี่ยนดูเป็นอารมณ์วูบ มากกว่านี้ (ประมาณว่าโดนพ่อด่าว่าทำแม่ตาย ลูกปีศาจ เมียโสเภณี หรือ ฯลฯ)

    และอาร์ยา + เดอะ ฮาว์ ก็เช่นกัน เล่นสร้างภาพลุงหลานคู่ซี้ขึ้นมาแบบนี้
    ตอนจบ ดันมาเย็นชาตามแบบในหนังสือ ทำให้คนดูมองอาร์ยาไม่ดีไปซะอีก คือไหนๆจะปรับให้คู่นี้เขาเคมีเข้ากัน ทำไมไม่ให้มันจากกันซึ้งๆหน่อยอะ

    อันนี้แหละที่ผมติมากๆ คือทีมสร้างซีรี่ส์ใจไม่แข็งครับ จะออกดราม่าฮอลีวู้ด ก็เอาเลย อาร์ย่าร้องไห้ก่อนลาเดอะ ฮาวด์ หรือ ทีเรี่ยน โดนพ่อไล่จ้วงจนเผลอยิงพ่อตาย หรือ ให้เจ้าชายหัวแตงโมรอดตายมันซะเลย!! 555
    หรือไม่ก็ทำให้มันเทาเข้มไปเลย ไม่ต้องสนความสวยงามมันล่ะ
    Inkyfingers, Notia, RickonStark และอีก 4 คน ถูกใจข้อความนี้
  24. Źéńőń

    Źéńőń ราชองค์รักษ์

    บางทีหนังก็ทำออกมาเกินความจำเป็นนะ ตั้งแต่ตอนจบ ss3 แล้ว ยังแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมทีเรียนถึงเลือกที่จะไปหาพ่อตัวเองทั้งๆที่มีโอกาสหนีแล้วแท้ๆแล้วก็ดูเหมือนจะไม่มีเหตุจูงใจให้ต้องไปหาเพื่อบอกลาหรือสะสางความแค้นเลย(เพราะในซีรี่ย์ทำไม่เหมือนในหนังสือ)เอาจริงทีเรียนน่าจะยอมจากไปโดยดีเลยดีกว่า ไปเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่งแล้วก็กลับมาแก้แค้นให้ทางบ้านหนาวไปเลยที่มาดูถูกตัวเองไว้ตั้งนาน ว่าแบบนี้มันสะใจกว่าเยอะ แอบผิดหวังเล็กน้อยเหมือนกันนะที่ไม่เห็นเลดี้สโตนฮาร์ท
    .
    .
    .
    .
    ตัวละครในเรื่องที่เห็นว่าน่าจะขาวบริสุทธุิ์ไร้มลทิลเลยจริงๆก็เห็นจะมีแต่เน็ดสตาร์คคนเดียวนั่นแหละแต่ก็หัวหลุดไปแล้วที่เหลือก็มีแต่พวกเทาๆจนเกือบดาร์คไปเลย
    484dd0n ถูกใจข้อความนี้
  25. Fangiris

    Fangiris ราชองค์รักษ์

    ขาวบริสุทธิ์ = น้องแบรนด์
    Inkyfingers และ Reindeerna ถูกใจข้อความนี้

Share This Page