พอดีผมไปอ่านเจอมาเลยเอามาแชร์ คับผม "จอน สโนว์ได้เป็นผู้บัญชาการของอัศวินราตรี ทำหน้าที่ปกป้องกำแพง เนื่องจากจอนได้เห็นพวกไวท์วอกเกอร์แล้ว จอนรู้ว่าพวกนี้อันตรายมากแค่ไหน ทำให้จอนกังวลมาก จอนเลยมีนโยบายต่อสู้กับไวท์วอกเกอร์เป็นอันดับแรก และเนื่องจากไม่ต้องการให้คนเถื่อนโดนไววอกเกอร์ฆ่าแล้วกลายเป็นไวท์วอก เกอร์ไปด้วย จอนเลยเจรจากับพวกคนเถื่อน ยอมเปิดประตูกำแพงต้อนรับพวกคนเถื่อนมาช่วยป้องกันกำแพง ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสของอัศวินราตรีไม่พอใจ ต่อมา สแตนนิสยกกองทัพออกจากกำแพงไป โดยมีเป้าหมายยึดวินเทอเฟลจากตระกูลโบลตันมาให้ได้ แต่กองทัพของสแตนนิสไปติดพายุหิมะอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ไปไม่ถึงวินเทอเฟลซะที ส่วนอาร์ย่าตัวปลอมก็ได้สายลับของจอนช่วยให้หนีออกมาจากวินเทอเฟลได้ แรมซี่ โบลตันเลยส่งจดหมายอีกามาถึงจอน บอกว่ากองทัพของสแตนนิสแพ้แล้ว สแตนนิสตายแล้ว จอนมันกระจอก สายลับที่ช่วยอาร์ย่าหนีก็โดนจับได้แล้ว ถ้าไม่อยากตายก็ส่งอาร์ย่าคืนมาซะดีๆ ไม่งั้นจะยกทัพไปฆ่าที่กำแพง จอนทนคำสบประมาทไม่ได้ ก็เลยประกาศจะรวบรวมกองทัพคนเถื่อนยกไปตีวินเทอเฟล พวกผู้อาวุโสของอัศวินราตรีก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เพราะการกระทำของจอนขัดต่อคำสาบานของอัศวินราตรี พวกนี้เลยล่อจอนออกมาข้างนอกแล้วใช้มีดรุมแทงจอนจนล้มลงในกองหิมะ ..... ชะตากรรมของจอนฝากไว้ในปลายปากกาของลุงมาตินแล้ว ว่าจะให้ตายหรือจะให้รอด"
ไทวินต้องการให้พวกโบลตันปกครองแดนเหนือได้อย่างราบลื่น ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้ พวกโบลตันก็ควรจะมีคนของสตาร์คอยู่ด้วยสักคนนึง แต่มันหาไม่ได้แล้ว ไทวินก็เลยจับเอาตัวสาวใช้ของซานซ่าคนนึงที่มาจากวินเทอเฟล ปลอมเป็นอาร์ย่า แล้วส่งเดินทางขึ้นเหนือไปแต่งงานกับแรมซี่ โบลตันซะเลย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าในซีรี่จะทำแบบเดียวกับนิยายรึเปล่านะครับ เพราะเท่าที่เห็นๆในซีรี่ รอบตัวซานซ่าก็ไม่เห็นเหลือใครเลยนี่นา .....
เพิ่มเติมต่อจากคุณDominaoนิดครับ ซึ่งคนที่เป้นอาย่าตัวปลอมนั้นก็คือ เจน พูล เพื่อนสนิดของซานซ่านั้นเองในซีรี่ภาค1จะเห็นอยู่แวบๆตอนมื้ออาหารค่ำ
การที่จอนโดนเสียบก่อนก็ดีเหมือนกันนะ จะได้ไม่ไปติดกับของแรมซี คิดว่าลุงตินคงยังไม่ให้จอนตายง่ายๆหรอก(แค่โดนรุมแทงมันตายสบายเกินไป)
ลุงมาร์ตินแกเกลียดพวกรักความยุติธรรมกับซื่อสัตย์ครับ แกคงเจออะไรสักอย่างแล้วกลายเป็นปมในเรื่องนี้ก็ได้ ผมว่าผมเข้าใจลุงแกแล้วหล่ะ
ลุงแกน่าจะทำประกันอัคคีภัยรอไว้แล้ว เผาไปแกก็จะรวยขึ้น ได้เงินไปซื้อปราสาท ตระกูลเฟร์ย ไว้เสวยซุกสุก กันไปอีก