ความรู้สึกที่มีต่อตระกูลหลักๆ หลังดูจบ: Stark Lannister Baratheon Targaryen Tyrell

กระทู้จากหมวด "พูดคุย Game of Thrones" โพสต์โดย Touya Akira, 4 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. Touya Akira

    Touya Akira พลเดินเท้า

    ก่อนหน้าจะได้ดูซีรี่ส์เรื่องนี้ เพื่อนที่เป็นสาวก GOT เปิดรูปตัวละครสำคัญต่างๆ แล้วก็สัญลักษณ์ประจำตระกูลใหญ่ทั้งสี่รวมบ้านสำคัญอื่นๆ ให้ดูแล้วถามว่าชอบของตระกูลไหนมากที่สุด เราก็เลือกตระกูลนี้โดยไม่คิดเลย หมาป่าบนธงสีขาว งามดูดีมีสไตลล์สมกับเป็นอาณาจักรทางเหนือมาก

    [​IMG]

    เพื่อนเราก็เตือนว่าถ้าเชียร์บ้าน Stark ก็ทำใจหน่อยนะ ต้องมีผ้าเช็ดหน้าเวลาดู เอาไว้กัดตอนเครียดกับเอาไว้ซับน้ำตายามต้องเห็นเด็กๆ ตระกูล Stark เผชิญชะตากรรม เราก็เลยตั้งใจมากว่าจะไม่เชียร์ค่ะ ก็ถามเพื่อนว่าแล้วเชียร์บ้านไหนดี ถึงจะได้อารมณ์ยิ่งใหญ่สะใจประดุจสาวกทีมแมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด เพื่อนก็แนะนำว่าควรเชียร์บ้านนี้

    [​IMG]

    เพื่อนอีกคนก็แย้งว่าบ้านLannister น่ะไม่เท่าไหร่หรอก เก่งแต่กับบ้าน Stark เท่านั้นแหละ เจอพลังบ้านอื่นไปก็มีเป๋เหมือนกัน ถ้าอยากเชียร์ตัวละครที่กราฟชีวิตโดยรวมพุ่งขึ้นตลอด ตกระกำลำบากนิดหน่อยพอให้ได้ลุ้น ก็ควรเชียร์สาวบ้านนี้

    [​IMG]

    เราก็ใจจดใจจ่อเอาใจช่วยเธอเต็มที่ ถึงแม้ว่าเส้นเรื่องของเธอจะแยกจากบ้านอื่นอย่างชัดเจน และคงไม่ได้บรรจบกันเร็วๆ นี้แน่นอน

    หลังดูจบสามซีซั่นรวดภายในหนึ่งอาทิตย์ เรามีความรู้สึกต่อสามตระกูลหลัก (ที่มีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง) ดังนี้ค่ะ
    Rheagar Targaryen, Kurodo และ Lord wizz ถูกใจข้อความนี้
  2. Touya Akira

    Touya Akira พลเดินเท้า

    **Spoiler Alert***

    1) ตระกูล Stark : ตัวเอกแสนอาภัพ

    เราพยายามแล้วที่จะไม่เชียร์ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เชียร์บ้านนี้หมดใจไปแล้ว อาจเป็นเพราะทั้งผู้เขียนและผู้สร้างตั้งใจให้เราเห็นด้านดีๆ ของบ้านนี้มากกว่าบ้านอื่น พ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างที่ดี พี่น้องที่รักใคร่อบอุ่น (อาจจะยกเว้นแค่จอน สโนว์ ที่ถูกแคทลิน สตาร์คหมางเมินตลอดเวลา) พวกเขาเป็นชนชั้นปกครองที่ทรงเกียรติทั้งภายนอกและภายในอย่างที่เหล่า noble people ทั้งเวสเทอรอสควรจะเป็น หลังจากดูจบทั้งสามซีซั่น ตอนที่หนึ่งของซีซั่นแรกน่าจะเป็นตอนที่เศร้าที่สุดเวลาย้อนกลับไปดู (วันเวลาดีๆ หายไปไหนหมด)

    แต่เพราะวรรณกรรมของ GRRM มุ่งเน้นสะท้อนความเป็นจริงมากกว่าเดินตามแบบแผนของวรรณกรรมอวยฮีโร่ทั่วๆไป ความ'ดีเกินไป' ของบ้าน สตาร์คกลับส่งผลร้ายต่อครอบครัวเมื่อต้องตกอยู่ในเกมแห่งอำนาจ บ่อยครั้งที่เรารู้สึกหงุดหงิดพฤติกรรมที่บางทีดูฉลาดน้อยของคนบ้านนี้สุดๆ โดยถ้าให้เรียงลำดับความหงุดหงิดจากน้อยไปหามากคงเป็นตามนี้

    D. Sansa Stark: คุณหนูโลกสวย

    [​IMG]

    ช่วงแรกๆ ถึงเธอจะน่าหมั่นไส้เช่นเห็นว่าที่สามีอย่างจอฟฟรีย์ดีกว่าน้อง และความอยากเป็นราชินีจนตัวสั่น (แบบซื่อๆ) ของเธอ แต่หลังจากเห็นพฤติกรรมของแม่เธอแล้ว เราจึงเข้าใจว่าเธอไม่เคยถูกสอนให้เล่นการเมืองแบบผู้หญิงๆ ในราชสำนักเลย ตอนอยู่ Winterfell คงมีแต่แม่นม สาวใช้ เป็นเพื่อนเล่น นั่งเย็บปักถักร้อยจิบน้ำชาชมสวนไปวันๆ เป็นตลกร้ายอย่างนึงที่คนที่มักพูดจาเชิงสั่งสอนเธอบ่อยๆ กลับเป็นเซอร์ซี เช่นฉากที่อยู่ในป้อมปราการด้วยกันตอนท้ายซีซั่นสอง เราขำในใจแบบ:คุณแม่แคทคงไม่เคยสอนลูกอย่างนี้ชัวร์

    ข้อดีของซานซ่าคือเธอรักษาเกียรติภูมิความเป็นเลดี้ของเธอจนหยดสุดท้ายแม้กระทั่งอยู่ในดงศัตรู และเราเชื่อว่าคาแรกเตอร์ของเธอต้องพัฒนาไปอีกไกล และเธอน่าจะเป็นตัวแทนฝ่ายการเมืองออกหน้าให้ตระกูลสตาร์คได้ในอนาคต

    C. Eddard Stark: รู้ว่าความดีไม่ช่วยอะไรเมื่อสายไป

    [​IMG]

    เราชอบเน็ด สตาร์คมาก ฝีมือการแสดงของฌอน บีน ยิ่งทำให้เรารู้สึกขนลุกกับความยิ่งใหญ่ในหัวใจของเน็ด สตาร์ค เป็นพ่อที่ตั้งใจสอนลูก เข้าใจลูกมาก ตอนที่อาร์ยาบอกว่าไม่อยากเป็นเลดี้ อยากบู๊ก็จ้างครูสอนดาบมาให้อาร์ยา (ซึ่งถ้าเป็นพ่ออย่างไทวิน แลนนิสเตอร์เราคงเห็นfeedback อีกแบบ) รักคนใต้ปกครองเหมือนลูก และเป็นชายที่ยอมตายเพื่อความสัตย์ เพราะชื่อเสียงความดีงามที่โด่งดังทั่วเวสเทอรอสจึงดูเหมือนจะไม่มีใคร เกลียดชังเน็ดเป็นการส่วนตัว -นี่เป็นจุดอ่อนข้อที่หนึ่ง และความเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวในแคว้นเหนือทำให้เขาไม่เคยต้องแย่งชิงอำนาจกับตระกูลใด- นี่เป็นจุดอ่อนข้อที่สอง เน็ดเป็นนักรบและนักปกครองที่ยิ่งใหญ่แต่ขาดสกิลของนักการเมือง เราเผลอทำท่า facepalm ทุกครั้งที่ความตรงเกินไปของเน็ดค่อยๆ ต้อนเขาเข้าสู่จุดตาย "Hot temper, slow mind" เป็นคำที่ลอร์ดเบลิซหรือ Littlefinger ใช้อธิบายพวกสตาร์คได้ดีที่สุด

    แต่เน็ดไม่ใช่คนโง่ เขาได้รับบทเรียนแล้วและเราคิดว่าท้ายซีซั่นหนึ่งที่เขาถูกโยนเข้าคุกแล้วมีขันทีวาริสคอยมาคุยเป็นเพื่อนเป็นจุดที่เน็ดคิดได้ และนำมาสู่การยอมสารภาพผิดในข้อหากบฎในเวลาต่อมา เราเศร้าใจที่สุดท้ายเน็ดต้อง "ยอมงอ" เพื่อที่จะอยู่รอด เพื่อลูกๆ ของเขา แต่แน่นอนว่าถ้าเน็ดรอด บ้านสตาร์คก็คงไม่เละเทะเช่นตอนนี้ และมันคงไม่ใช่โลกของ GOT

    (มีต่อ)
    Nemuineko Nai, besuto, Fangiris และอีก 6 คน ถูกใจข้อความนี้
  3. Touya Akira

    Touya Akira พลเดินเท้า

    B. Catelyn Stark: พลาดพลั้งเพราะใช้อารมณ์เป็นใหญ่

    [​IMG]

    เลดี้แคทเป็นตัวละครที่เราไม่ชอบมากที่สุดในเรื่องเพราะทำอะไรขัดใจคนเชียร์ทีมสตาร์คที่สุด แคทลินเกลียดจอน สโนว์เข้าไส้ (แสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้จิตใจงามบริสุทธิ์แบบสามีหรือลูกสาวคนโตของเธอ) จับทีเรียน แลนนิสเตอร์-เปิดช่องให้สามีโดนหาเรื่อง ปล่อยเจมี แลนนิสเตอร์-เป็นชนวนให้ลูกทะเลาะกับลอร์ดคาร์สตาร์คจนสุดท้ายจบลงที่การประหารลอร์ดคาร์สตาร์ค ไปเข้ากับเรนลี คือเราแบบ ไม่เข้าใจเจ๊เลย สกิลมองภาพรวมเจ๊ต่ำมาก เจ๊เป็นคนที่ทำให้ในบอร์ดต่างประเทศพูดได้เต็มปากว่าพวกสตาร์คนี่มัน "ไม่ค่อยฉลาด" จริงๆ

    ฉากที่พีคมากของเลดี้คนนี้สำหรับเราไม่ใช่ตอน Red wedding แต่เป็นตอนที่เธอเล่าเรื่องของตัวเองให้เมียร๊อบฟังว่าเธอบนเทพเจ้าไว้ว่าถ้าจอน สโนว์หายป่วยเธอจะรักจอนเหมือนลูกแต่แล้วเธอก็ทำไม่ได้ ทำให้เทพเจ้าสาปแช่งครอบครัวของเธอ เราแอบสะใจลึกๆ ว่ารู้ตัวก็ดีว่าที่ตระกูลชิบหายวางป่วงทุกวันนี้ก็มีชนวนเริ่มต้นมาจากคุณแม่แคทนี่แหละ

    อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่น่าเห็นใจของเลดี้สตาร์คคือเธอทำทุกอย่างเพราะความรักลูก เธอวิ่งโร่เข้าเมืองหลวงเพื่อตามหาคนที่ทำร้ายลูกเธอ เธอปล่อยเจมีเพราะหวังจะได้ลูกสาวสองคนกลับมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเป็นตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์สูงมาก สิ่งที่เราขัดใจคือเธอเป็นคนห่วงเรื่องลูกมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ตอนร๊อบละเมิด oath เรื่องแต่งงานกับลูกลอร์ดเฟรย์เจ๊ดูไม่ทำอะไรเท่าไหร่ แค่เถียงๆ บ่นๆ นิดหน่อย ไม่ค้านหัวชนฝาเท่าเรื่องเจมีเลย ทั้งๆที่มันซีเรียสพอกันหรือซีเรียสกว่าด้วย

    A. Robb Stark: ใจดีกับศัตรูแต่โหดเหี้ยมกับพวกเดียวกัน

    [​IMG]

    ร๊อบเป็นลูกชายที่ถอดแบบผู้นำตระกูลอย่างเน็ดมาเป๊ะ ในลูกชายรุ่นหนุ่มสามคนของบ้าน ร๊อบ จอน ธีออน เขาแผ่รัศมีกลบอีกสองคนซะมิด จอนรู้สถานะตัวเองและพยายามอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว (ตอนคิงโรเบิร์ตมา จอนยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่แถวหลังรวมกับคนอื่นๆ) ส่วนธีออนพยายามจะเป็นคนสำคัญโดยเลือกเกาะหัวหน้าฝูงหมาป่าอย่างร๊อบและเก็บความอิจฉาไว้ในใจ (ดันมาระเบิดเอาทีหลังหลังจากถูกลอร์ดเกรย์จอยพ่อแท้ๆไซโค) ถึงแม้ร๊อบจะมีคุณสมบัติหลายอย่างของเน็ด แต่เขายังเป็นเน็ดที่ไม่สมบูรณ์ ในด้านการทำศึกเขาเป็นนักรบ นักวางกลยุทธชั้นยอด เป็น Young Wolf ที่ไม่เคยแพ้ แต่ในด้านการเมืองปกครอง ถือว่าอ่อนเชิง ยังต้องพัฒนาอีกมาก ถ้าเราเป็นลอร์ดคาร์สตาร์กกับลอร์ดโบลตัน คำถามว่าทำไมไม่เอาร๊อบเป็นคำถามที่ผิด ต้องถามว่าทำไมถึงต้องเอาร๊อบมากกว่า ในเมื่อเด็กหนุ่มนี่ไม่เคยเห็นหัวพวกเขาเลย

    เรามีเหตุผลว่าทำไมเราหงุดหงิดร๊อบมากกว่าคุณแม่สตาร์ค

    -ข้อแรกคือเราเสียดายคุณสมบัติที่เพียบพร้อมของร๊อบ Richard Madden นักแสดงที่รับบทเป็นร๊อบเคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าร๊อบไม่ตาย เขาเชื่อว่าร๊อบเป็น candidate ที่เหมาะสมจะคิงแห่งเวสเทอรอสที่สุด

    -ข้อสองคือเราเซ็งความเด็ดขาดในทางที่ผิดของร๊อบ ทั้งๆ ที่ความผิดพลาดของทั้งพ่อและแม่ตัวเองก็มีให้เห็นอยู่ตำตา เขามองความถูกต้องในเวลาที่ไม่ควรมอง มีเมตตาต่อศัตรูในเวลาที่ไม่ควรมี เพราะเป็นลูกชายของผู้ยิ่งใหญ่เขาไม่รู้จักซื้อใจคน เอาอกเอาใจคน หรือผูกมัดคนด้วยผลประโยชน์ คือเราเห็นสภาพแล้วกลุ้มใจว่าจะเอาอะไรไปสู้ไทวิน

    -ข้อสามคือเรื่องของทาลิซ่าแฟนร๊อบ ที่ทำให้ร๊อบผิดคำสาบานจะแต่งงานกับลูกลอร์ดเฟรย์ นี่มัน Epic fail ชัดๆ เราคิดว่าการเปลี่ยนบทของเมียร๊อบจากในหนังสือยิ่งทำให้ความผิดพลาดของร๊อบดูโง่และไม่น่าเห็นใจมากขึ้น รวมถึงมันดูขัดกับคาแรกเตอร์ของร๊อบที่ปูมาแต่ต้นมากๆ อาจจะต้องโทษฝ่ายเขียนบทของซีรี่ส์ที่ไม่สามารถทำให้เราซาบซึ้งกับความรักของร๊อบกับทาลิซ่าได้เลย ดูออกแนวเป็นคู่รักแบบเห็นแก่ตัวมากกว่า เราไม่เห็นว่าทาลิซ่าจะเป็นคนที่ดูเฉลียวฉลาดสะดุดตาต่างจากหญิงอื่นตรงไหน (ถ้าออกมาแล้วออร่าพุ่งแบบมาเจอรี หรือเดเนรีสก็ว่าไปอย่าง) คำพูดคำจาก็แบบ ก็ไม่รู้สินะ เช่นตอนนางถามว่า Winterfell อยู่ตรงไหน เรานี่แทบสำลักน้ำ แกเอาผู้หญิงที่ไหนมาเป็นควีนเนี่ยร๊อบ

    ฉากน่าประทับใจของร๊อบคือใน Red wedding ร๊อบยอมรับความตายอย่างสงบเหมือนเน็ด (ปลงได้ก่อนแม่อีก แม่ยังคิดไม่ได้) เป็นการแสดงออกถึงความกล้าหาญครั้งสุดท้าย

    [​IMG]

    (มีต่อ)
    sleepless, besuto, Polarbear และอีก 11 คน ถูกใจข้อความนี้
  4. ปลาวาฬภูเขา

    ปลาวาฬภูเขา อัศวินไร้นาย

    รอจะคุยมาตั้งแต่บ่ายละ ยังไม่กล้าคยเพราะบอกว่ายังมีต่อ แล้วไม่ยอมมาต่อสักที :whip:
    สุนัขป่าโลกันตร์ ถูกใจข้อความนี้
  5. Źéńőń

    Źéńőń ราชองค์รักษ์

    บ้านสตร์คตอนนี้ซานซ่าน่าจับตาดูสุดแล้ว
    484dd0n ถูกใจข้อความนี้
  6. AM'Rome Buster

    AM'Rome Buster ราชองค์รักษ์

    โธ่ถัง บ้านผมโดนอีกแล้วก่อนเพื่อน เศร้าจุง
    Fangiris และ Gutter13 ถูกใจข้อความนี้
  7. Lord wizz

    Lord wizz อัศวินไร้นาย

    มารออ่านต่อ























    นานแล้วนะครัช กะลังสนุก:notworthy:
    KruOng ถูกใจข้อความนี้
  8. Touya Akira

    Touya Akira พลเดินเท้า

    (ต่อค่ะ เผอิญว่า จขกท. ติดภารกิจในตอนกลางวันเลยต้องแบ่งพิมพ์ทีละนิด ระหว่างที่รอก็คุยคั่นได้นะคะ ไม่ถือว่าเสียมารยาทอะไร)

    จากสมาชิกบ้านสตาร์คที่ทำเราหงุดหงิดก็มาถึงสมาชิกบ้านสตาร์คที่เราชื่นชอบตั้งแต่ช่วงเปิดเรื่อง ได้แก่ แบรน อาร์ยา และจอน สโนว์ (เว้นน้องริคคอนไว้เพราะน้องยังเด็ก ไม่ค่อยมีบทบาท) แล้วเราก็ไม่แปลกใจว่าทำไมทั้งสามคนนี้ยังอยู่รอดปลอดภัยดี สองคนแรกเราเห็นว่าเป็นเพราะไม่ค่อยมีลักษณะนิสัย หรือ stereotype ของความเป็นสตาร์คเท่าไหร่ ส่วนคนที่สาม ถึงแม้จะมีนิสัยความเป็นสตาร์คอยู่เต็มเปี่ยมก็ไม่อาจถือได้ว่าเป็น สตาร์คตามกรอบของวัฒนธรรมประเพณีในโลก GOT

    1) Bran Stark : ท่านลอร์ดน้อยผู้อ่อนโยน

    [​IMG]

    ทายาทชายบ้านสตาร์ค รวทถึงทายาทฝ่ายหญิงอย่างอาร์ยาต่างก็สืบทอดทักษะการต่อสู้ทั้งขี่ม้า เชิงดาบ ธนู แต่ความเป็นนักรบหรือผู้ปกครองดูจะไม่ใช่แนวทางของแบรน เขาตั้งใจฝึกยิงธนูแต่ก็ยังยิงพลาดเป้าในขณะที่อาร์ยายิงเข้าเป้าได้อย่างแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม เขาตั้งคำถามกับพ่อว่าทำไมถึงต้องประหารอีกาที่ละทิ้งหน้าที่ เรานึกภาพคนที่มีจิตใจอ่อนโยนอย่างแบรนลงมือสังหารใครไม่ออกเลย แบรนเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็น ฉลาด และมีจินตนาการสูงจนนำเขาไปสู่การเห็นภาพนิมิตต่างๆ ดังนั้น ความเข้มแข็งของแบรนไม่ได้อยู่ที่พลังกายภายนอกแต่เป็นภายในจิตใจ

    นอกจากนี้แบรนยังเป็นคนนิ่ง ใจเย็น ควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดี (สำหรับเด็กอายุสิบกว่าขวบ) ซึ่งเป็นด้านตรงข้ามกับสมาชิกบ้านสตาร์คคนอื่นๆ เขารับมือธีออน เกรย์จอยด้วยความหนักแน่นแต่ไม่เกรี้ยวกราด คอยห้ามทัพไม่ให้โอชาทะเลาะกับสองพี่น้องตระกูลรี้ด อันที่จริงเรายังไม่เคยเห็นแบรนอาละวาดหรือหัวเสียใส่ใครเลยตลอดสามซีซั่น

    เส้นเรื่องของแบรนน่าจะเป็นการนำเสนอโลกของเวทมนตร์และดินแดนเหนือกำแพง เราเดาว่าถ้าไม่ใกล้จบเรื่องจริงๆ เส้นทางของแบรนไม่น่าจะมาบรรจบกับคนอื่นๆ ในเวสเทอรอสได้ง่ายๆ
    2) Arya Stark: Valar Morgulis

    [​IMG]

    ในซีรี่ส์เรื่องนี้อาร์ยาคือนางเอกตัวจริงของเรา เธอทำให้เรานึกถึงนางเอกนิยายแฟนตาซีที่เราอ่านสมัยเด็กๆ เจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่ต้องการจับดาบมากกว่าจับเข็มเย็บผ้าเป็นคาแรกเตอร์ที่ปรากฎอยู่ในนิยายแนวอัศวินยุคกลางแทบทุกเรื่อง ความขัดแย้งระหว่างกรอบ/สถานะที่สังคมวางไว้กับความเป็นตัวของตัวเองเป็นดราม่าคลาสสิกที่ทำให้ตัวละครนั้นมีสเน่ห์น่าติดตาม เรายอมรับว่าเนื่องเรื่องใน GOT บางช่วงก็เนือยๆ ชวนง่วง (มักเกิดกับเรื่องฝั่งเดเนรีส) แต่พอเป็นตอนของอาร์ยาเท่านั้นแหละ ความสนุกตื่นเต้นเพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัว

    ในขณะที่สตาร์คกลุ่มบนเป็นพวกแพ้ภัยตัวเอง อาร์ยานั้นตรงกันข้าม เธอรอดจากเรื่องร้ายๆ มากมายที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอก็เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ค่อยมีความเป็นสตาร์คเท่าไรนัก เธอไม่ศีลธรรมสูงเหมือนพ่อ ไม่ยึดติดเหมือนแม่ ไม่ถือดีอย่างพี่ชาย ไม่หน้าบางเหมือนพี่สาว โดยส่วนตัวเราเห็นว่าในบรรดาลูกๆ บ้านสตาร์ค อาร์ยาฉลาดไหวพริบดีที่สุด เจ้าเล่ห์ที่สุด และมีพัฒนาการทางจิตใจสูงที่สุด เธอปรับตัวทุกอย่างเพื่อจะอยู่รอด
    เมื่อรอบตัวมีแต่ความตาย เธอก็นับถือเทพแห่งความตายและเลือกจะหยิบยื่นความตายให้ผู้อื่นแทนที่จะเป็นความตายของตัวเอง

    อาร์ยาเป็นความหวังที่เราจะได้เห็นฝั่งสตาร์คเอาคืน Counter attack ฝั่งตรงข้ามบ้าง ถ้าไม่พากันตายไปหมดเสียก่อน

    [​IMG]

    3) Jon Snow: ลูกนอกคอกผู้แสวงหาหนทางของตนเอง

    [​IMG]

    จอน สโนว์ มีความเป็นสตาร์คทุกอย่างอยู่ในตัว ทั้งข้อดีและข้อเสีย จอนเป็นคนรักศักดิ์ศรี รักความถูกต้องแทบเท่าชีวิตตนเอง ทั้งยังเป็นคนกล้าหาญ กล้าเลือกทางเดินที่แสนยากลำบากอย่างที่คนมีทางเลือกในชีวิตเค้าไม่เลือกกันเพื่อแสวงหาเกียรติยศให้ตนเอง-อันนี้เป็นความเท่แบบสตาร์ค ในบางครั้งจอนก็วู่วาม หุนหันพลันแล่น ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และไม่ได้เป็นคนหัวไวเท่าไรนัก (เขาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ต้องไปเป็นเด็กรับใช้ติดตาม Lord Commander แซมเพื่อนรักต้องเตือนสติว่าก็เพราะนายมีคุณสมบัติจะเป็น Lord Commander คนต่อไปต่างหาก)-อันนี้ก็เป็นข้อเสียแบบสตาร์ค บางคนอาจพูดว่าถ้าจอนนามสกุลสตาร์คเขาก็คงไม่ต่างจากร๊อบ เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นถ้าวิเคราะห์จากปมในจิตใจของจอน คือความรู้สึกเป็นคนนอกในสังคมที่ตนเองอยู่ตลอดเวลา

    ถึงจะมีสายเลือดเดียวกันกับพี่น้องคนอื่น จอนไม่มีต้นทุนในชีวิต เขาไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในวินเทอร์เฟล เขาถูกตีตราด้วยคำว่า bastard son ซึ่งเป็นคำที่ถูกใช้เรียกขานเหมือนเป็นอีกชื่อหนึ่ง ครั้นจากผากำแพงมาเป็นอีกาก็ไม่วายถูกหมั่นไส้ในช่วงแรกๆ พออกไปปฏิบัติหน้าที่ก็ถูกผู้บังคับบัญชาเลือกปฏิบัติ ทั้งๆที่มันเป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ของจอนเองเขาก็ดูเป็นเดือดเป็นร้อนมากมายเกินปกติ พอถูกพวกคนเถื่อนจับตัวได้ ก็ต้องเล่นละครให้พวกคนเถื่อนเชื่อว่าจอนทรยศ night's watch มาเข้ากับพวกตัวเองแล้วอีก ทั้งชีวิตของจอนต้องต่อสู้เพื่อให้ตนเองเป็นที่ยอมรับตลอดเวลา สำหรับเรานี่เป็นการต่อสู้ที่น่าเหนื่อยใจและต้องใช้ความอดทนมากมายถึงจะฟันฝ่าไปได้ แต่จอนก็ไม่เคยปริปากพูดความรู้สึกกับใคร เขาก็แค่เงียบและลงมือทำเท่านั้น

    ไทเรียน แลนนิสเตอร์ ดูเอ็นดูจอนเป็นพิเศษ คงเพราะเขาเห็นบางส่วนของตัวเองในตัวของจอน สโนว์ บทสนทนาที่ไทเรียนพูดกับจอนในคอกม้านับเป็นหนึ่งในบทพูดที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน GOT

    [​IMG]

    จบแล้วค่ะ สามตัวละครที่ทำให้เรายังคงเชียร์บ้านสตาร์คต่อไป จริงๆ ที่บ้านนี้แพ้เป็นบ้านแรกคงเป็นการส่งสานส์จาก GRRM มั้งคะว่าการใช้ความดีต่อกรกับความชั่วร้ายแล้วชนะเนี่ย มันมีอยู่แต่ในนิทาน

    ตอนต่อไปเป็นเรื่องของตระกูลแลนนิสเตอร์ บ้านที่เราซูฮกว่าเก่งเมพแต่เราทำใจเชียร์ไม่ลง

    (มีต่อ)
    Last edited: 10 เมษายน 2014
    besuto, Gutter13, Źéńőń และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  9. ผมว่าอาร์ยานี่มีความเป็นสตาร์คสูงมากเลยนะ นิสัยตรงไปตรงมา เปิดเผย โผงผาง
    Inkyfingers, Master of Sellsword, Hodor is coming และอีก 3 คน ถูกใจข้อความนี้
  10. eaPPad

    eaPPad อัศวินไร้นาย

    มารออ่าน บ้านแลนนิสเตอร์ ครับผม

    ดูท่า GRRM จะชอบตัวละคร ทีเรียน อยู่พอสมควร ถึงกับออกหนังสือรวมคำคม ของทีเรียนเลย
  11. Bo'Jung

    Bo'Jung อัศวินไร้นาย

    แหม่ ทีเรี่ยน นี่ไม่ธรรมดา เลยนะครับ
  12. joketc

    joketc นักดาบฝึกหัด

    รอติดตามต่อครับ
  13. AM'Rome Buster

    AM'Rome Buster ราชองค์รักษ์

    เพิ่งสังเกตว่าจขกท. เพิ่ง 24 เองเหรอครับ สาวมากเลยครับ ถ้าเทียบกับบรรดาขุ่นแม่ของผม อิอิ

    (ขอนอกเรื่อง นิสนึง นะครับ) :X3:
    Gutter13 และ Fangiris ถูกใจข้อความนี้
  14. ปลาวาฬภูเขา

    ปลาวาฬภูเขา อัศวินไร้นาย

    โดยส่วนตัวเราเห็นว่าในบรรดาลูกๆ บ้านสตาร์ค อาร์ยาฉลาดไหวพริบดีที่สุด เจ้าเล่ห์ที่สุด และมีพัฒนาการทางจิตใจสูงที่สุด เธอปรับตัวทุกอย่างเพื่อจะอยู่รอด
    ^
    ^
    ผมว่าการพัฒนาการทางจิตใจนี่ต้องซานซ่าครับ อาร์ยาไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตใจอะไรเลย อาร์ยาเป็นแบบนั้นและก็เป็นแบบนั้นมาเรื่อยๆ

    ส่วนซานซ่าน่ะเริ่มจากเด็กหญิงเพ้อฝัน กลายเป็นคนที่อยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงและต้องพยายามอยู่รอดในสภาวะที่เลวร้ายสดขีด

    ดังนั้นเรื่องพัฒนาการทางจิตใจอาร์ยาอ่อนด้อยมากๆครับ แต่พัฒนาการที่เห็นได้ชัดคือความกร้านโลก(และนั่นไม่ใช่พัฒนาการด้านจิตใจแต่อย่างใด

    ปล. จขกท.เชียร์แมนยู "ก็ถามเพื่อนว่าแล้วเชียร์บ้านไหนดี ถึงจะได้อารมณ์ยิ่งใหญ่สะใจประดุจสาวกทีมแมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด" <<<อยากถามว่าเชียร์ทีมกลางตารางมันได้อารมณ์ยิ่งใหญ่ตรงไหนครับ (ไม่คุยด้วยละเบื่อกองเชียร์ทีมบอล อบต. :ROFLMAO:)
    Lady Nymeria, Master of Sellsword, Fangiris และอีก 2 คน ถูกใจข้อความนี้
  15. มีนัดเลี้ยงกันเมื่อไหร่มีหวังโดนขี่ม้าเหยียบแบนแต๊ดแต๋
    KruOng, Fangiris, Hodor is coming และอีก 3 คน ถูกใจข้อความนี้
  16. TheOnlyAce2

    TheOnlyAce2 อัศวินไร้นาย

    ผมว่า lannister ไม่ได้เก่งกับ stark อย่างเดียวหรอกครับ เค้าเก่งกับ baratheon ด้วยในด้านทางการเมือง ถ้าเอาจริงๆนะ โรเบิร์ตติดหนี้กับพวกแลนนิสเตอร์ ไปกี่ มังกรทองแล้วล่ะนั่น
    Master of Sellsword ถูกใจข้อความนี้
  17. Touya Akira

    Touya Akira พลเดินเท้า

    คุณสุนัขป่าโลกันตร์<<<เห็นด้วยค่ะ เราว่าเราอธิบายไม่ดีเอง สำหรับอาร์ยาเราควรจะบอกว่าเธอเป็นสตาร์คที่มีความร้ายกาจเจ้าเล่ห์บวกเพิ่มมาด้วยมากกว่า

    คุณ eaPPad<<< อยากได้หนังสือนะคะ จะลองหาตามร้านหนังสือใหญ่ๆ ในเมืองที่เราอยู่ดู นอกจากทีเรียนก็มี Littlefinger ที่พูดจาเป็นคำคมบ่อยๆ

    คุณ AM'Rome Buster<<<ไม่สาวเท่าไหร่หรอกค่ะ ถ้าอยู่ในโลก GOT ป่านนี้คงลูกสามแล้ว

    คุณปลาวาฬภูเขา <<พออ่านความเห็นของคุณแล้วเราเห็นด้วยค่ะ อาร์ยาเป็นตัวของตัวเองมาตลอด แล้วก็พัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเรื่อยๆจากประสบการณ์ น่าจะเรียกว่าสกิลสูงขึ้นเรื่อยๆมากกว่า ในขณะที่ซานซ่าต้องเปลี่ยนตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ

    คุณ theonlyAce2<<< เห็นด้วยค่ะ ใน ss1 เรนลี่ยังเม้าให้แฟนฟังเลยว่าคิงโรเบิร์ตหงอกับเมียเพราะอยากได้เงินเธอ ฉากที่ไทวินแล่กวางในเต้นท์เราคิดว่าสื่อถึงตระกูลบาราเธออนโดยตรง

    ปล. เราไม่ได้เชียร์แมนยูหรอกค่ะ แต่เรายอมรับว่าเป็นทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่นะถึงแม้ว่าจะมีช่วงตกอับบ้างอะไรบ้าง ตกเครื่องบินตายทั้งทีมก็เคยมาแล้วแค่หล่นไปอยู่กลางตารางก็คงไม่เป็นไรมากมั้งคะ สงสารสาวกค่ะ บางคนโดนล้อจนไม่กล้าออกจากบ้านแล้ว

    2) ตระกูลแลนนิสเตอร์ : The professional player

    ไม่ว่าในยุคสมัยใด เราต้องได้พบเจอกับครอบครัวนักการเมืองมืออาชีพที่พรั่งพร้อมไปทรัพย์สมบัติ ลูกน้อง คอนเนคชั่นและทรัพยากรอื่นๆ ทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในเกมชิงอำนาจ บ้านแลนนิสเตอร์ไม่ใช่บ้านที่มีลักษณะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอย่างบ้านสตาร์ค ในทางตรงกันข้าม เราคิดว่าความสัมพันธ์ของสมาชิกบ้านนี้เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในนามของครอบครัว มีไทวิน แลนนิสเตอร์เป็นท่านประธานบริษัทจอมเผด็จการที่มีเป้าหมายสูงสุดอยู่เพียงอย่างเดียวคือสร้างแบรนด์ให้บริษัท แลนนิสเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่มั่นคงที่สุดในเวสเทอรอส มีลูกๆ สามคนเป็น Executive Directors ทำงานงกๆ ให้พ่อแล้วแต่พ่อจะเรียกใช้

    ตั้งแต่ ss1 เรารู้สึกขนลุกกับความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยวแปลกประหลาดของคนบ้านนี้ พวกเขาไม่เคยแสดงความอ่อนโยนต่อกันให้เห็นเลย ระหว่างพ่อลูกมีแต่คำดุด่า บทสนทนาแห้งแล้งเย็นชาและจำกัดอยู่แต่เรื่องงาน ระหว่างพี่น้องก็มีแต่คำจิกกัด เสียดสี ประชดประชัน (ถ้าชินกับบ้านนี้แล้วจะเข้าใจว่าเป็นการแสดงความรักแบบพี่น้องแลนนิสเตอร์) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สุขภาพจิตของลูกบ้านนี้จะอยู่ในขั้นต้องไปพบจิตแพทย์ ทุกคนที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่น GOT กันต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย (และทำให้ซีรี่ส์มีรสชาติมากๆ)

    A. Tywin Lannister : The Godfather (ตัวจริงเสียงจริง)

    [​IMG]

    บางคนอาจจะมองคุณปู่คนนี้เป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่ถ้าให้เราเลือกเป็นลูกน้องเราอยากเป็นลูกน้องไทวินมากกว่าร๊อบหรือสแตนนิสนะคะ เขาเป็นนักธุรกิจที่เน้นผลลัพท์มากกว่าวิธีการ ยอมเล่นสกปรกด้วยการลอบสังหารคนแค่ไม่กี่ร้อยคน (ในงาน red wedding) ช่วยให้ทหารอีกนับหมื่นไม่ต้องตายในสนามรบ นี่อาจเป็นคุณธรรมเฉพาะตัวของไทวินก็ได้ สายตาของคุณปู่แกเป็นสายตาของคนที่มองความจริง (เช่นกิเลสของมนุษย์) เป็นหลัก ดังนั้นเขาจึงมองเกมแห่งอำนาจได้ทะลุปรุโปร่ง

    หากนำคำพูดของลอร์ดวาริสที่กล่าวว่า "Power resides where men believe it resides" (อำนาจอยู่ในที่ที่มนุษย์เชื่อว่ามันสถิตย์อยู่) ไปพูดกับปู่ไทวินเจ้าของอำนาจที่แท้จริง อาจจะโดนแกด่ากลับได้ว่า "It's not belief, it's a fact" (มันไม่ใช่เรื่องของความเชื่อ แต่เป็นข้อเท็จจริง (ต่างหากล่ะ))

    เทียบกับวรรณกรรมสายเดียวกันหลายๆ เรื่อง คาแรกเตอร์เก่งแทบไร้จุดอ่อนอย่างคุณปู่ไทวินมักไม่ได้ตายด้วยเงื้อมมือศัตรูหรอกค่ะ มักตายเพราะคนใกล้ตัวมากกว่า

    (มีต่อ)
    Inkyfingers, besuto, Lord wizz และอีก 3 คน ถูกใจข้อความนี้
  18. ปลาวาฬภูเขา

    ปลาวาฬภูเขา อัศวินไร้นาย

    พวกเขาไม่เคยแสดงความอ่อนโยนต่อกันให้เห็นเลย ระหว่างพ่อลูกมีแต่คำดุด่า บทสนทนาแห้งแล้งเย็นชาและจำกัดอยู่แต่เรื่องงาน ระหว่างพี่น้องก็มีแต่คำจิกกัด เสียดสี ประชดประชัน (ถ้าชินกับบ้านนี้แล้วจะเข้าใจว่าเป็นการแสดงความรักแบบพี่น้องแลนนิสเตอร์)
    ^
    ^
    เจมี กับ ทีเรียน(ทำไมไม่อ่านว่าไทเรียน?) ออกจะอ่อนโยนต่อกันพอสมควรนะครับ ส่วนที่จิกกัดและเสียดสีมีแค่ เซอซี กับ ทีเรียน(ทำไมไม่อานว่าไทเรียนวะ?)

    ในส่วนของไทวินนั้นไม่ใช่ว่าแกไม่รู้จักจะอ่อนโยนหรอกครับ สำหรับผมที่มองว่าไทวิน(น่าจะอ่านว่า "ทีวิน" ซะให้รู้แล้วรุ้รอด -"-) ชายผู้ยอมหักไม่ยอมงอยังคงเลี้ยงทีเรียนและให้ใช้ชื่อสกุลอยู่แบบออกนอกหน้านี่ถือว่าอ่อนแล้วสำหรับแก(เทียบกับวัลเดอร์ เฟรย์ที่มีลูกสติไม่สมประกอบคนนึงและเก็บลูกคนนั้นไว้ให้พ้นสายตาชาวโลกอย่หลายปี)...แล้วทำไมไทวินถึงได้เป็นคนแบบนั้นล่ะ

    จากปากคำของเซอร์ เคแวน แลนนิสเตอร์ เราได้รู้ว่าเพราะอาป๊าของไทวิน นั้น "อ่อนแอ" เกินไป ทำให้ไม่มีคนเกรงกลัว บ้านไหนมายืมทองไปก็ไม่ยอมคืน แถมยังเอาพ่อของไทวินมาล้อเลียนเวลาเมา แม้ขนาดเมียเก็บของพ่อเองยังขโมยเงินแล้วหนีไปหน้าตาเฉย...ไทวินเก็บกดและต้องแบกภาระกอบกู้ศักดิ์ศรีของแลนนิสเตอร์มาตั้งแต่อายุ 20 ...พอจะเข้าใจมั้ยครับ ว่าไทวินแกก็มีอะไรในใจแกถึงอยากให้ลูกทุกคนมองถึงผลประดยชน์ของตระกูลมาก่อนความสขส่วนตัว(ก็แหงล่ะเพราะความสุขส่วนตัวของแกมันเหือดแห้งไปตั้งแต่ทีเรียนเกิดแล้วทำให้ภรรยาตาย)

    ในเมื่อศักดิ์ศรีของตระกูลคือชีวิตของไทวิน และลูกๆของไทวินก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตเขาเช่นกัน เมื่อมองใจุดนี้เราจะพบว่าไทวินมีเหตผลพอในการที่จะพยายามผสานครึ่งชีวิตหนึ่ง(ศักดิ์ศรีตระกูล) เข้ากับอีกครึ่งชีวิต(ลูกๆ) มันเลยทำให้ไทวินเหมือนจะเย็นชากับลูก และเอาแต่พยายามให้ลูกทำเพื่อตระกูล

    ไทวินไม่รู้จักคำว่าอ่อนโยนหรอกครับ เพราะความอ่อนโยนของเขานั้นได้รับมาจากภรรยา เมื่อภรรยามาจากไป "ส่วนที่ดี(อ่อนโยน)ของไทวินก็จากไปเช่นกัน" (จากปากคำของเซอร์ เคแวน)

    อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าลอร์ดไทวินรักลูกมาก แม้กระทั่งกับทีเรียน ไม่งั้นไทวินคงเลือกจะตัดทีเรียนออกจากตระกูลให้ไปอย่กับทิชา แทนที่จะเอาทิชามาป้ยี่ปู้ยำเพื่อ "สั่งสอน" ทีเรียนแน่นอนครับ

    อา...ลอร์ดไทวิน แอบซึนเดเระ >___<
    Inkyfingers, Eva, Polarbear และอีก 7 คน ถูกใจข้อความนี้
  19. Kurodo

    Kurodo Grand Maester Staff Member

    เห็นด้วยกับคุณปลาวาฬฯ ที่กล่าวถึงไทวิน แต่เห็นต่างสำหรับประเด็นทีเรียน
    ไทวินไม่ได้สนใจที่จะแสดงความรักต่อลูกๆ (อาจยกเว้นเล็กน้อยกับเจมี่) และแสดงความเป็นศัตรูที่ชัดเจนกับทีเรียน เพราะทีเรียนคือเรื่องเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นความอัปยศของไทวินต่อโลก ไทวินไม่ไล่ทีเรียนไปกับทิชาเพราะว่าถ้าทำแบบนั้นชื่อเสียงของตระกูลแลนนิสเตอร์ที่ไทวินอุตส่าห์เรียกกลับคืนมาได้ต้องพินาศอีกรอบแน่ๆ ใครๆ จะได้พูดกันว่าลูกชายของลอร์ดราชสีห์แต่งงานกับโสเภนี ไทวินจึงทำให้การแสดงเสมือนว่าลูกชายหลงโสเภนีแบบชนชั้นสูงคนอื่นๆ กระทำมากกว่าจะยอมให้แลนนิสเตอร์ไปแต่งงานกับคนต่ำต้อยแบบนั้น

    ไทวินไม่จำเป็นต้องรักลูกที่เค้าไม่รัก เหมือนที่จขกทกล่าวไทวินเป็นประธานบริษัทสิงห์ทอง จะสั่งงานลูกๆ แบบที่ตัวเองพึ่งพอใจ

    หนึ่งในความรักของไทวินต่อทีเรียนก็ได้แก่
    การมอบของขวัญในวันครบรอบวันตั้งชื่อปีที่ 16 แก่ทีเรียนคือ โยนทีเรียนลงไปขัดท่อระบายน้ำทั้งหมดของคาสเทอร์ลีร็อค!!!!!!

    ซึ่งเมื่อมองลักษณะของไทวินต่อคนในตระกูลก็พอสรุปได้ว่า
    -รักมากกับโจแอนนา ศรีภรรยา
    -รักทั้งพี่น้องทั้งชายและหญิง ที่ต่างก็เคารพพี่ใหญ่อย่างไทวิน
    -รักเจมี่ให้ฐานะบุตรชายที่ภาคภูมิและเชื่อฟังคำสั่งเสมอ แม้จะแอบผิดหวังและโกรธตอนบุตรชายไปเป็นราชองครักษ์แต่ไทวินยกความโกรธแค้นเกือบทั้งหมดให้แอริสแทน
    -เฉยๆ/รัก (เกือบๆ) เซอร์ซี ให้ฐานะบุตรสาวผู้งดงามและเชื่อฟังบิดา แต่ไม่รักเซอร์ซีเนื่องด้วยนิสัยอวดฉลาดของเซอร์ซีเองกอรปกับประเพณีนิยมที่รักบุตรชายมากกว่าบุตรสาว
    -รังเกียจทีเรียน ในฐานะความอัปยศของตระกูล เรื่องหน้าตาอย่างเดียวในตอนแรกและรวมพฤติกรรมอันฉาวโฉ่วในตอนหลัง (ซึ่งเกิดจากหน้าตาในตอนแรกเป็นเหตุ....อย่างงนะครับ)
    -ดูถูกไททอส บิดาของตนเพราะความอ่อนแอและทำให้โดนดูถูกในวัยเด็ก
    Inkyfingers, besuto, Lord wizz และอีก 5 คน ถูกใจข้อความนี้
  20. ปลาวาฬภูเขา

    ปลาวาฬภูเขา อัศวินไร้นาย

    เป็นความเห็นที่น่าสนใจและมีพลังที่มาพร้อมเหตผลรองรับที่หนักแน่นมากๆสำหรับคุณ Kurodo

    แต่ในเรื่องของความรักลูก ผมยังมองว่ายังไงซะไทวินก็รักทีเรียนครับ เพียงแต่การแสดงออกของแกมันซึนเดเระแบบนั้นเอง

    ผมคิดว่าเพราะทีเรียนหลุดออกจาสารบบของตระกูลมากที่สุด ไทวินจึงต้อง "ตบ" ให้แรงกว่าลกคนอื่น เพื่อชดเชยทีเรียนมีปมด้อย(ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการให้มีเลยนะปมด้อยเนี่ย) ส่วนเจมีนั้นเกิดมาเพียบพร้อมอย่แล้วการ "ตบ" เจมีจึงไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย...

    ขอทิ้งคำถามเล่นๆนะครับว่า...ถ้าเจมี เกิดมารปหล่อ เพียบพร้อม แต่ไม่เอาถ่านบ้าผู้หญิงเกลือกกลิ้งกับโสเภณี...กับทีเรียนที่เกิดมาเป็นคนแคระ แต่ดันเป็นคนแคระคนแรกในประวัติศาสตร์เวสเทอรอสที่ได้เป็นลอร์ดบัญชาการหน่วยราชองครักษ์

    ลองคิดเล่นๆว่าลอร์ดไทวินจะแสดงปฏิกิริยายังไงกับลูกทั้งสองครับ...

    ปล.ที่เรารักทีเรียน เพราะเราเป็นคนอ่านหนังสือ เราจึงรู้สิ่งที่ทีเรียนคิดและสิ่งที่เขาทำ แต่ถ้าเราจะประเมินพ่อคนนึงว่ารักหรือไม่รักลูกผมอยากให้เราลองประเมินในแง่ที่ว่า "ลอร์ดไทวินไม่เคยอ่านหนังสือ GOT ดังนั้นเขาจึงไม่เคยร้เลยว่าลูกเขาคิดหรือทำอะไรลงไป" ลองคิดดูอีกทีครับผมมั่นใจว่าหลายๆคนไม่น่าจะตัดสินลอร์ดไทวินในแง่ความเลือดเย็นต่อลูกชายคนสุดท้องได้อย่างชัดเจนนัก
    Kurodo, Lord wizz, Gutter13 และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  21. ผมมองไม่ออกเลยว่ารักทีเรียน คนเขียนแกก็เก่งนะครับทำให้คนตีความต่างกันได้ขนาดนี้

    พออ่านวิเคราะห์เบื้องหลังแล้วมีปมที่ชวนให้สงสัยเยอะครับ ทฤษฎีนึงที่ผมคล้อยตามก็คือเจมีกับเซอร์ซีจริงๆ แล้วไม่ใช่ลูกจริงๆ ของไทวินหรอก เพราะมีเหตุการณ์ตอนงานแต่งนั่น... ประกอบกับปัจจัยอีกสองสามอย่าง ในขณะที่ ทีเรียน มีแนวโน้มสูงมากว่าเป็นลูกแท้ๆ ของไทวิน ซึ่งไทวินเองก็มีข้อสงสัยนี้ในใจด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะรักเจมีเต็มที่ที่สง่างามสมแลนนิสเตอร์ก็ทำไม่ได้อย่างเต็มใจ จะเกลียดทีเรียนไม่เลี้ยงดูเลยก็ไม่ได้อีก

    เห็นบางคนไม่ชอบแนวคิดนี้เท่าไหร่เพราะทำให้ทีเรียนหมดสิทธิ์เป็น 1 ใน 3 หัวของมังกร
    Inkyfingers, besuto, Kurodo และอีก 5 คน ถูกใจข้อความนี้
  22. inzee

    inzee อัศวินไร้นาย

    ผมว่าไทวินรักแค่ คำว่าแลนนิสเตอร์ ต่อท้ายชื่อ ของทุกๆคนมากกว่า
    ไม่ว่าลูก พี่น้อง ญาติ

    ดูอย่างตอนที่ไทวินโกรธขึ้นมา ที่หา ไทเร็ค แลนนิสเตอร์ไม่เจอ
    ตอนที่หายไปในเหตุจราจร ที่ซานซาเกือบโดนข่มขืน

    ไทวินถามหาคนนี้ตั้งหลายรอบในหนังสือ แต่ในซีรี่อาจจะไม่มีนะ
    ผมว่าไทวินไม่อยากให้คำว่า แลนนิสเตอร์แปดเปื้อนเลยสักนิด
    เอาจริงๆผมไม่รู้เลยว่าไทเร็ึคเป็นลูกใึคร แต่ไทวินก็สั่งให้ตามหาต่อไป
    ทั้งๆที่ไม่สำคัญเท่าไหร่ แค่มีคำ่ว่า แลนนิสเตอร์ต่อท้ายชื่อแค่นั้นเอง
    Polarbear, Kurodo, Lord wizz และอีก 4 คน ถูกใจข้อความนี้
  23. AM'Rome Buster

    AM'Rome Buster ราชองค์รักษ์

    สาวกแมนยูตัวจริง จะไม่อับอายแม้ว่าทีมจะตกต่ำ แค่ไหน อาจมีหวั่นไหว หรือขัดใจบ้างแต่ก็ไม่เคยดูถูกทีมตัวเอง และยังรัก ศรัทธาในทีมเสมอ มันเป็นเรื่องธรรมดามากครับ มีรุ่งโรจน์ก็ต้องมีตกต่ำ แล้วกลับมาผงาดอีกครั้ง ต่างจากบางทีมที่จมอยู่กับอดีต ไม่รู้จักพัฒนา และทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ใครชนะก็หาว่าเขาโกง เสมอก็ด่าว่าอ่อน แพ้ก็เหยียบย่ำ ไม่เคยชะโงกดูเงาหัวของตนบ้าง ก็ปล่อยให้จมกับอดีตต่อไป สาวกทีมนั้นก็น่าเห็นใจ นิสัยก็คล้ายๆเด็กเวลาไม่ได้ของเล่น :rolleyes:

    ปล. รักนะครับ 555+
    Lord wizz ถูกใจข้อความนี้
  24. ปลาวาฬภูเขา

    ปลาวาฬภูเขา อัศวินไร้นาย

    แน่ล่ะครับที่จะมองไม่ออก(เอาจริงๆตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มาเรามองอะไรออกกันจริงๆสักกี่ครั้งกันครับ หลายๆครั้งเราโดนหักมมจนกระดูกกระเดี้ยวกรอบไปทั้งตัว และการที่เรามองไม่ออกและคาดไม่ถึงไม่ใช่เหรอครับที่ทำให้เราเสพย์ติดจนถึงขั้นบ้าคลั่งกับนิยายเรื่องนี้) เพราะลุงมาร์ตินแกไม่ได้เขียนนิยายเรื่องนี้ในมุมมองของลอร์ดไทวินเลย มีแต่มุมมองของลูกๆทั้งสาม แล้วคาแรคเตอร์ของลอร์ดไทวินในมโนสำนึกของเราก็วาดขึ้นตามมุมมองเหล่านั้น

    ถ้าเราไม่ได้รู้จากปาก เซอร์เคแวน เราก็แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลอร์ดไทวินมีปมอะไรยังไงบ้าง ดังนั้นในส่วนที่ลุงมาร์ตินเว้นว่างเอาไว้นี้(ในส่วนของ "ความคิดในมุมของไทวิน) ก่อให้เกิดแนวความคิดหลากหลายตามมาให้แฟนๆได้พูดคยกัน(เหมือนอย่างพวกเราตอนนี้)

    คุณสนัขป่าคิดว่าคนเขียนเก่งเหรอครับ...ด้วยชั้นเชิงขนาดนี้ผมคิดว่าคนเขียนแกเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเลยล่ะ

    ปล.ถ้าลงมาร์ตินกำกับภาพยนตร์แกจะทิ้งปมไว้แบบเดียวกับคริสโตเฟอร์ โนแลน สไตล์นั้นแหละครับ
    Kurodo, Lord wizz, Gutter13 และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  25. TheOnlyAce2

    TheOnlyAce2 อัศวินไร้นาย

    เห็นด้วยครับ คนเราจะมโนลอร์ดไทวินไปเอง ในมุมของตัวละครลูกๆทั้งสาม

Share This Page