Maleficent จากนางฟ้าสู่จอมแม่มด...จริงหรือ?

กระทู้จากหมวด "ห้องนั่งเล่น" โพสต์โดย Sir.Stromtrooper, 14 มิถุนายน 2014.

  1. Sir.Stromtrooper

    Sir.Stromtrooper พลเดินเท้า

    Maleficent จากนางฟ้าสู่จอมแม่มด...จริงหรือ?

    ระดับการสปอย : ปานกลาง

    [​IMG]

    ... หลังจากที่เข้าโรงไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Maleficent กอบโกยทั้งเสียงชม
    และรายได้ไปอย่างล้นหลาม โดยเปิดตัวในวันแรก (ในไทย) ไปที่ 10.5 ล้านบาท
    และยังคงโกยเงินต่อไป...

    ...โดยเมื่อพูดถึงในเรื่องของแนวภาพยนตร์แล้ว ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากเมื่อ
    จั่วหัวสตูดิโอ วอลต์ ดิสนี่ ย่อมเป็นแนว ตำนาน เรื่องเล่า และเทพนิยายตามรูปแบบถนัด
    โดยหยิบยกเอาเรื่องราวของ "เจ้าหญิงนิทรา" ที่เป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรปในช่วงยุคกลาง
    มาเป็นเนื้อเรื่องหลัก แต่ประเด็นของหนังจะมุ่งไปที่แม่มดตัวร้ายที่ชื่อว่า "Maleficent"
    รับบทโดยนักแสดงหญิงตัวแม่แห่งฮอลลีวู้ด คือ แองเจลิน่า โจลี่ โดยบอกเล่าถึงเรื่องราว
    ก่อนเริ่มคำสาปที่สาปเจ้าหญิงออโรล่าให้ถูกเข็มปั่นด้ายตำนิ้วมือ ในวันครบรอบวันเกิด
    อายุ 16 ปีของเจ้าหญิง แล้วจะหลับไหลเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอดกาลจนกว่าจะได้รับ
    จุมพิตรักแท้ จึงจะล้างคำสาปได้ ...

    ... เมื่อพูดโดยรวมแล้วตัวหนังทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของดิสนี่ โดยต้องยกเครดิตให้กับ
    การแสดงของโจลี่ ที่ตีบทแตกมากๆ ตอนเป็นแม่มดก็งามสง่า น่าเกรงขาม ตอนเป็นนางฟ้าก็ดูใจดี
    โดยเฉพาะ ฉากน่ารักๆ ระหว่าง โจลี่กับเจ้าหญิงตัวน้อย ทำออกมาได้ดีมากๆ น่ารักสุดๆ (เจ้าหญิง
    ตัวน้อยที่โจลี่อุ้มนั้นเป็นลูกสาวของเธอจริงๆ เพราะ ไม่มีเด็กคนไหนกล้าเข้าฉากโดยที่ไม่ร้องไห้ กำ)
    ซึ่ง ตัวหนังทำออกมาเพื่อให้ข้อคิดในเชิงที่ว่า "อย่ามองคนแต่เพียงภายนอก" โดยเน้นย้ำไปที่จุดสำคัญ
    ที่เน้นย้ำให้คนเราเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น ทุกการกระทำของคนเราย่อมมีเหตุผลเป็นของตนเอง
    การกระทำที่ไม่ดีที่เค้าแสดงออกมาให้เห็นไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเป็นคนไม่ดีมาตั้งแต่ต้น
    แต่มันเกิดอะไรขึ้นหละ เค้าจึงเปลี่ยนไป ตรงจุดนี้แหละที่ผมมองว่าเป็นแก่นสาระสำคัญที่ตัวหนัง
    ต้องการที่จะสื่อออกมา ...

    จุดเด่น : - การตีความเทพนิยายใหม่ในอีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ
    - นักแสดงนำหญิงแสดงได้ดีมาก สื่ออารมณ์ได้โหดสุดๆ นักแสดงคนอื่นๆ ก็ทำให้ตัวหนังดำเนินไปได้
    อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
    - CG สวยมากๆ อลังการสุดๆ
    จุดด้อย : - การดำเนินเรื่องเรื่อยๆ เนือยๆ ไม่ค่อยมีจุดพีค
    - ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ยังแสดงออกมาได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่

    สรุปแล้ว ถ้าให้คะแนน Maleficent ก็จะอยู่ที่ 4/5 คะแนน ครับผม ^-^ ;):p;)

    ป.ล. ฉากมังกรถล่มปราสาทพอจะทำให้เห็นภาพตอนแดนี่ นำลูกมาบุก คิงสแลนดิ้งคร่าวๆ ได้เลยครับ
    Last edited: 15 มิถุนายน 2014
    Nemuineko Nai, Źéńőń, topz73 และอีก 2 คน ถูกใจข้อความนี้
  2. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    เจ้าหญิงนิทราไม่ใช่เทพนิยายครับ
    Sir.Stromtrooper ถูกใจข้อความนี้
  3. CherryBoy

    CherryBoy พลเดินเท้า

    น่าดูมากครับ พน.ว่าจะไปดูพอดี :p:p
    Sir.Stromtrooper ถูกใจข้อความนี้
  4. Sir.Stromtrooper

    Sir.Stromtrooper พลเดินเท้า

    ....รับทราบครับผม ขอบคุณมากครับ ^^ .....
    Last edited: 15 มิถุนายน 2014
  5. Inkyfingers

    Inkyfingers พลเดินเท้า

    เพิ่งไปดูเมื่อไม่กี่วันมานี้เองค่ะ
    เราว่ามันเหมือนfrozenยังไงไม่รู้อ่า พากย์ไทยดีก็จริงแต่เราว่าพากย์อังกฤษต้องดีกว่าแน่ๆ เนื้อเรื่องก็ธรรมดาๆนะคะ แต่ฉากสวยมากๆค่ะ โดยเฉพาะมังกร;) และเราก็ชอบแนวคิดที่ว่า พรของนางฟ้ามีผลกับMalificentด้วยค่ะ มันดูสมดุลกันดี
    Last edited: 15 มิถุนายน 2014
  6. Azazel

    Azazel นักดาบฝึกหัด

    เทพนิยาย ในที่นี้คงหมายถึง Fairy tale หมายถึงงานประพันธ์ที่มีตัวละครจากความเชื่อพื้นบ้าน (เช่น ภูตยักษ์คนแคระแม่มด สัตว์พูดได้) กับเรื่องของเวทมนตร์ และเหตุการณ์ที่ดำเนินไปเกินคาดคิด ครับ
    คงไม่ใช่ตามพจนานุกรม ที่แปลว่า เรื่องราวหรือตํานานเกี่ยวกับเทวดา ไม่งั้นคงเหลือไม่กี่เรื่อง
  7. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    คำจำกัดความของวิกิไม่ถูกต้องครับ ถ้านับแบบนั้นเดอรลอร์ดก็คือเทพนิยาย GOTก็คือเทพนิยายเหมือนกัน
    ทุกวันนี้ คำว่าเทพนิยายถูกหยิบยกมาเพื่อขายเรื่องราวเพ้อฝันกับนวนิยายใหม่ คำจำกัดความที่ท่านยกมานั้น มันคือFantasy ไม่ใชFairy tailผมไม่รู้ว่าใครให้คำจำกัดความในไทยวิกินะครับ

    เรื่องราวที่เป็นเทพนิยาย จะนับได้ต้องใช้ตัวดำเนินเรื่องหลักเป็นเทพหรือพวกที่มีความสัมพันธ์กันเทพ อย่างพวกครึ่งเทพ ลูกเทพ หรืออะไรที่เป็นHoly แต่ไม่ใช่magicโดยมนุษย์ อย่างแม่มด หมอผี พวกนี้เป็นแฟนตาซี

    ภูต จัดเป็นเทพแบบหนึ่ง เทพชั้นต่ำ บ้านเราเรียกเจ้าที่ เทพารักษ์ เจ้าป่าเจ้าเขา

    เทพนิยายจริงๆก็มีไม่กี่เรื่องครับ เกือบทั้งหมดจะเป็นนิยายเก่า หรือตำนานจากความเชื่อ ไม่ใช่เรื่องแต่งเพื่อความบรรเทิงอย่างเดียว อย่างโอลิมปัส นอร์ด บ้านเราก็มีหิมพาน แต่ละท้องถิ่นก็จะมีตำนานเป็นของตัวเอง
  8. Jony Freeman

    Jony Freeman พลเดินเท้า

    เกรงว่าเรื่องนี้จะไปไกลเกินกว่านิยายเด็กนะสิครับ เพราะแนวคิดตอนท้ายเรื่องดูไม่ค่อยสมกับเป็นดิสนี้เลย แนวคิดที่ว่า รักแท้ไม่มีจริง เด็กๆไปดูอาจจะมองความรักหนุ่มสาวเป็นเรื่องน่ารังเกียจและเลิกมีความรักไปเลยก็ได้
    ที่ว่าเนื้อเรื่องไหลลื่นผมว่ายังมีหลายอย่างที่น่าสงสัย เช่น
    1. ทั้งๆที่รู้ว่าคนรักขโมยปีกไป แถมยังไปแต่งงานกับหญิงอื่น เป็นผมผมจะสาปนังนั่นแหละ ทำไมต้องรอให้มีลูกแล้วสาปลูก?
    2. ในเมือโดนสาปไปแล้วก็ไม่เห็นต้องให้เจ้าหญิงออกจากปราสาทเลยเพราะคำสาปมันติดตัวไปแล้วจะหนีเพื่อ?
    เห็นด้วยคับที่ว่าพลังของนักแสดงทำให้หนังดูไม่สะดุดเลย
    แต่ถ้าถามผมว่าหนังสนุกไหม? ตอบสั้นๆว่า "สนุก" ครับ
  9. Inkyfingers

    Inkyfingers พลเดินเท้า

    1 ตอนแรกก็ไม่สงสัยนะ แต่อ่านข้อแรกแล้วสงสัยตามเลย555
    2 เราว่ามันน่าจะตอบด้วยตรรกะง่ายๆนะคะ คือกษัตริย์ไม่ยอมรับความจริงแล้วก็ไม่เชื่อในคำสาปค่ะ เลยคิดว่าคำสาปต้องมีทางแก้แน่ๆ
  10. Jony Freeman

    Jony Freeman พลเดินเท้า

    ผมว่าไม่น่าใช่นะครับเพราะกษัตริย์ก็น่าจะรู้ดีอยู่ว่าไม่มีทางแก้คำสาปได้เพราะทางแก้คือจุมพิตรักแร้ เอ้ย! จุมพิตรักแท้ ซึ่งตัวกษัตริย์เองก็พูดเองว่า รักแท้ไม่มีจริง การให้หนีไปอยู่กับนางฟ้า น่าจะเป็นความพยายามป้องกันไม่ให้คำสาปเป็นเริ่มทำงานซึ่งถ้าจะตอบว่าเกิดจากการไม่ยอมรับความจริงก็พอฟังขึ้นอยู่ :p เพราะเอาเข้าจริงๆดูเหมือนคำสาปนี้จะเป็นคำสาปที่สาปแล้ว หยุดไม่ได้ แก้ไม่ได้ ถอนไม่ได้ แม้แต่ตัวผู้สาปเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ผมเรียกง่ายๆว่า"ชะตากรรม"
  11. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    ทำไมกษัตริย์ไม่สาปคืนบ้าง
  12. Nemuineko Nai

    Nemuineko Nai พลเดินเท้า

    เราเพิ่งไปดูมาเมื่อวานนี้ค่ะ และเจาะจงดูแบบ Soundtrack ด้วยเพราะเราติ่งเจ๊โจลี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
    (ถ้าประโยคเราอวย อ่านแล้วงง อย่าถือสานะคะ เราชอบโจลี่มากๆ


    เราก็มีคำถามเหมือนคุณ Jony Freeman เหมือนกันค่ะ
    แต่เราได้คำตอบจากความคิดส่วนตัวเราว่า ถ้าเราแค้นมากๆของมากๆ เราจะทำยังไงดีให้คนที่เราแค้นนั้นเจ็บปวดที่สุด!
    คำตอบคือ ไปลงกับคนที่มันรักมากๆนั่นแหละ ถึงจะสาแก่ใจ ลงกับเมียไปก็คงไม่สะใจเท่าลูกหรอก โฮะๆๆ


    ส่วนข้อคิดที่ว่า รักแท้ไม่มีจริง เราว่าเขาต้องการจะบอกว่าความรักที่เป็นรักแท้
    ไม่จำเป็นต้องเป็นความรักเฉพาะในหนุ่มสาวเท่านั้น มันหมายถึงความรักที่มาจากใจ การปกป้อง การคุ้มครอง
    เหมือนความรักจากพ่อแม่ที่รักลูกๆจากใจจริง ปากจะบอกว่าอัปลักษณ์ น่าเกลียด แต่รักนะเด็กโง่

    แถม(ความเห็นส่วนตัว)การที่เจ้าชายจูบออโรร่าแล้วนางไม่ฟื้น เราว่าส่วนหนึ่งมากจากพรของนางฟ้า
    ที่ว่าถ้าใครพบเจอ ต้องรักเธออย่างแน่นอน เลย
    ทำให้จูบจากเจ้าชายมันไม่ส่งผล
    แต่จูบจากคนที่เฝ้าดู รัก ทะนุถนอมมาแต่เล็กแต่น้อยกลับได้ผล เราชอบตรงนี้


    ยิ่งตอนที่มาเลฟิเซนต์ต้องการถอนคำสาป เราสะเทือนใจนะ
    เหมือนย้ำเตือนคนเราๆอ่ะค่ะ (สอนเด็กๆไปในตัวด้วย) ว่า การกระทำที่ทำไปโดยมีความโกรธ เกลียด ชิงชิงบังตา
    พอมันส่งผล(แย่ๆ)แล้ว เรากลับไปแก้ไขไม่ได้หรอกนะ จะทำอะไร จะพูดอะไร ต้องใช้สติก่อนนะจ๊ะ

    (ทำให้เรานึกถึงคำคมที่เคยเจอมาเลยค่ะ
    สิ่งที่ออกไปแล้วไม่หวนกลับ4ประการ : ธนูที่ออกจากแหล่ง, คำพูดที่ออกจากปาก, โอกาสที่ปล่อยให้หลุดมือ และเวลาที่ผ่านไป
    )


    และ ถ้าถามว่าสนุกมั้ย บอกเลยว่าสนุก!
    (เรื่องนี้เราอวยอยู่แล้วค่ะ เพราะเราชอบโจลี่ ฮิฮิ :X3:)
    CherryBoy ถูกใจข้อความนี้
  13. sirot

    sirot อัศวิน

    พวกเทพกรีก,นอร์ส ฯลฯ หรือเรื่องราวของเทพที่เป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมนี่เค้าไม่ได้เรียก ปกรณัม,เทวตำนาน (Mythology) เหรอครับ :confused: ส่วน Fairy Tale ในภาษาไทยเรียกว่าเทพนิยายถูกแล้วหนา :p เพราะเป็นนิทาน (Tale) ที่มีเทพธิดา (Fairy) มาเกี่ยวข้อง และเป็นสากลกว่านิทาน/ตำนานพื้นบ้าน (Folklore) เป็นที่รู้จักแพร่หลายก็จริงแต่ไม่ได้ถึงกับเป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมประเภณีแบบปกรณัม ส่วนประเภท A Song of Ice and Fire นี่จัดเป็นนวนิยาย (Novel) ครับ รายละเอียดและความยาวเรื่องเยอะกว่านิทานและรู้กันทั่วไปว่าเป็นเรื่องแต่ง ส่วนเรื่องแต่ที่ยาวมากๆ ที่มีมีปกรณัมมาเกี่ยวข้องและมีผลกระทบทางวัฒนธรรมบ้างคือมหากาพย์ (Epic) ครับ :k1: อย่างที่รู้จักกันเช่น รามเกียรติ์,อีเลียต,กิลกาเมช ฯลฯ

    ปล. เห็นด้วยเลยครับว่าที่จริง Fairy Tale น่าจะแปลว่าภูตินิยายมากกว่า แต่สงสัยคนที่ให้กำเนิดคำว่าเทพนิยายน่าจะให้ความหมายคำว่า Fairy เป็นเทพธิดาที่หมายถึงภูติหรือนางฟ้า มากกว่าจะเป็นเทพหรือเทพี(God/Goddess)ผู้ศักดิ์สิทธิ์ตามอารยธรรมต่างๆ :read: ผมว่านะ แหะๆๆ

    ปล.2 ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยและขอข้อมูลที่เป็นความรู้เป็นวิทยาทานไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ :notworthy:
    Last edited: 19 มิถุนายน 2014
    CherryBoy ถูกใจข้อความนี้
  14. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    จริงแล้วความหมายมันมั่วกันอยู่ ตอนไทยเอามาใช้มันก็งง เท่าที่ผมอ่านมา
    Mythology คือศาสตร์หนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องราวเร้นลับทั้งหมดเลย เครื่องรางก็นับนะครับ คือเปกรณัมชาวเหนือ บางเล่มใช้คำว่าตำนานก็มี ว่างผมจะค้นหนังสือที่บ้านมาถ่ายปกให้ดูกัน แต่คนแต่งเขาใช้คำว่าEddaนะครับ ไม่รู้ว่าภาษาสแกนดี้แปลว่าอะไร

    ยุคหลังไม่มีการแต่งเรื่องราวเทพชั้นสูง บ้าพลังอีกแล้ว


    แต่จะมีพวกFairy tailเข้ามา ซึ่งเป็นสากลกว่า เป็นเรื่อง ราวของเหล่าภูตกับมนุษย์ มีอยู่ทุกมุมโลก ของไทยที่ ใกล้เคียงก็น่าจะ เมืองลับแลมั้ง


    จริงๆแล้วส่วนตัวผมมองFairy tailเป็นFolkloreที่มีเหล่าภูติเป็นตัวดำเนินเรื่องมากกว่าครับ เลยมีความเป็นสากลมากกว่าFolkloreที่ใช้วีรบุรุษ แม่มด

    ทีนี้Folklore ของฝรั่งมันก็คือ A myth,a tale,a storyนี่ละครับ บ้านเราก็นิยาย นิทาน ตำนาน เรื่องเล่า บลา บลา บลา

    Nov
    sirot ถูกใจข้อความนี้
  15. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    พอมีคนเอาเรื่องราวมาผูกกันส่วนหนึ่ง ก็เอาFolkloreนี่ละมาแต่ง ให้มีน้ำหนัก เป็นเรื่องเป็นราว มันก็เป็นNovelได้ครับ แล้วก็มีการพัฒนางานเขียนมาเรื่อยละครับ หลากหลายแนว

    GOT จะนับเป็นนวนิยายยุคกลาง ยุคอัศวินได้มั้ย ?
  16. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    EDIT เนตเอ๋อครับ ซ้ำ
    Last edited: 19 มิถุนายน 2014
  17. sirot

    sirot อัศวิน

    โดยส่วนตัวผมว่า Mythology ไม่ได้หมายความว่าเรื่องลึกลับทั้งหมดนะครับ แต่ความหมายรวมๆคือเทวตำนานที่กำเนิดจากความไม่รู้ของมนุษย์สมัยก่อนซึ่งจะกำหนดเทพเจ้าเป็นตัวแทนของสิ่งนั้นๆมากกว่า(ไม่มี Mythology ของที่ไหนที่ไม่มีเทพเจ้า) ไม่ใช่แค่ปกรณัมของนอร์ส แน่นอนว่ารวมเครื่องรางพิธีกรรมด้วยถ้านั่นเป็นส่วนนึงของอารยธรรมประเพณีนั้นๆ คล้ายๆกับศาสนา หรือก็คือศาสนา(Religion)มีพื้นฐานมาจาก Mythology นั่นเอง(สังเกตุได้จากเรื่องราวเทพเทวดาในศาสนานั้นๆ)เพียงแต่บวกคำสอนเป็นวิถีชีวิตเข้าไปด้วยแทนที่จะบูชาอย่างเดียว พูดง่ายๆคือจะเรียกต่างกันไปตามการขยายอารยธรรมและยุคสมัยมากกว่าตั้งแต่มนุษย์ยังอยู่กันกระจัดจายไม่รวมตัวกัน ถ้าเรียงตามไทม์ไลน์ยุคสมัยและสเกลความใหญ่ก็น่าจะสรุปได้ประมาณ

    Folklore(ตามชุมชน) + การขยายและหลอมรวมอารยธรรมเป็นเรื่องราวเดียวที่มีเอกลักษณ์ > Mythology(มาถึงตอนนี้มนุษย์รวมตัวกันใหญ่ๆเป็นประเทศและเริ่มสร้างสิ่งที่มีตัวตนจาก Mythology นั้นๆ อาทิ วิหาร ศิลปะ ฯลฯ) + คำสอน หลักวิถีชีวิต > Religion(ซึ่งจะขยายตัวโดยไม่ใช่แค่ประเทศเดียวแล้ว) ซึ่งสังเกตุว่าเรื่องๆเหล่านี้ค่อยๆหายไปนับตั้งแต่วิทยาศาสตร์ชัดเจนขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเรื่องลึกลับ (Mystery)ซึ่งเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้จนถึงปัจจุบัน

    ส่วน Fairy Tale (ไม่ใช่ Fairy Tail นะครับอันนี้การ์ตูน) ค่อนข้างแตกต่างเพราะไม่ได้เก่าแก่ถึงยุคโบราณแบบ Myth แต่เกิดขึ้นในสมัยใหม่ที่วิทยาศาสตร์รุ่งเรือง เป็นเรื่องที่สร้างมาเพื่อความบันเทิงใจโดยเฉพาะ ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตเหมือน Mythology กำเนิดมาจาก Folklore + Fable(นิทาน) พูดง่ายๆคือนิทานที่ผนวกความเชื่อเข้าไปด้วย แต่ก็แค่เพื่อความบันเทิงกับให้ข้อคิด ต่อให้วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าไม่มีจริงก็ตาม ต่อมาก็วิวัฒนาการโดยบวกวิทยาศาสตร์หรือปรัชญาไปด้วยแต่เมนหลักเพื่อความบันเทิงอยู่ดีก็กลายเป็นนวนิยาย(Novel)ซึ่งสมัยนี้นิยมกันมาก และแนวตามสิ่งที่เสริมไป เช่นถ้าเสริมวิทยาศาสตร์ก็เป็นแนว Sci-Fi เสริมความเชื่ออภินิหารและสิ่งที่ไม่มีจริงก็เป็นแนว Fantasy

    ASOIAF นี่ถ้าให้เรียกก็น่าจะเป็นนวนิยายแนวแฟนตาซี+ย้อนยุค+ปรัชญาครับ ธีมเป็นแนวยุคกลางก็จริงแต่ปรัชญานี่เข้ากับยุคสมัยนี้มาก

    ปล. หนังสืออะไรหว่า :drool: น่าสนใจละ ผมก็ชอบอ่านแนว Myth นะแต่ของยุโรปเหนือมีแค่สามสี่เล่ม ส่วนมากจะเป็นอียิปต์และกรีกมากกว่า ถ้าไม่รบกวนขอดูปกหน่อยครับเผื่อจะไปหาซื้อบ้าง อิอิ :p

    ปล.อีกที ขออภัยจขกท.ที่พาออกทะเลมาซะไกล :notworthy: กลับไปเรื่อง Maleficent ยังทันมั้ยหว่า 55555555555
    Angelius-The First Men ถูกใจข้อความนี้
  18. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    เล่มนี้ครับ จริงๆผมมีเล่มอื่นด้วย แต่เป็นเหยื่อปลวกไปแล้ว นอกนั้นก็เป็นตำนานกรีกกับอียิปตืซึ่งมันเกลื่อนตลาดอยู่แล้วครับ
    ของยุโรปเหนือจะหาอ่านยากครับ ผมก็หาได้2-3เล่มเอง เนื้อหาเดียวกันด้วย
    [​IMG]

    อันที่ที่จริงผมงงว่า ฝรั่งมักใช้คำว่าPoetic Edda กับSagas คู่กัน แต่คนไทยใช้แค่เทพนิยาย เทพปกรณัม
    CherryBoy และ sirot ถูกใจข้อความนี้
  19. sirot

    sirot อัศวิน

    เฮ้ย!! น่าจะเล่มเดียวกันเลย เพียงแต่ของผมเปลี่ยนปกใหม่ เสียดายว่าตอนนี้ผมเก็บไว้ที่หอที่มหาลัยเลยถ่ายให้ดูไม่ได้ TwT ปกรูปธอร์ควงค้อนเหมือนกัน(แต่วาดด้วยคนละคน) ชื่อไทยก็แบบนี้แหละ

    เห็นด้วยเลยว่าสมัยก่อนหายากมากๆ ส่วนมากจะเป็นเรื่องแทรกในหนังสือเกี่ยวกับเทวตำนานที่มีกรีกเป็นหลักมากกว่า แต่ตั้งแต่หนังเรื่องธอร์ออกมายอมรับเลยว่าหาง่ายขึ้น (=w=)b แต่ผมว่าหนังสือที่เป็นเกี่ยวกับเทพเจ้าอียิปต์จริงๆก็หายากนะ ประชากรเทพได้ซักจังหวัดได้มั้ง เยอะไปไหน มากกว่ากรีกซะอีก TvT ส่วนมากที่วางขายจะเป็นเรื่องพื้นๆเกี่ยวกับฟาโรห์,พิธีศพ,พีระมิด,เฮียโรกลิฟฟิก ฯลฯ มากกว่า

    สงสัยที่คนแปลไทยแปลเป็น เทพปกรณัมนอร์ส ก็เพราะว่าบทกวีเอ็ดด้าเป็นเรื่องสรุปเกี่ยวกับเทพเจ้าและวีรชนนอร์สทั้งหมดที่รู้จักตั้งแต่ต้นจนจบมั้งครับ เลยแปลชื่อไทยเป็นแบบนี้น่าจะง่ายกว่า
  20. Angelius-The First Men

    Angelius-The First Men อัศวินไร้นาย

    เล่มนี้เกือบ10ปีแล้วนะครับ
  21. sirot

    sirot อัศวิน

    พิมพ์ใหม่ไงครับ ครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่แน่ใจ ผมหาปกแบบผมในเน็ตไม่เจอ TwT
  22. CherryBoy

    CherryBoy พลเดินเท้า


    มีเล่มเดียวกันเลยครับ เล่มนี้ผมก็มี สนุกดีครับ หาอ่านค่อนข้างยากเกี่ยวกับเทพของชาวสแกนดิเนเวีย แถมเล่มนี้ออกเสียงตามแบบสแกนดิเนเวียเลยด้วย
    Angelius-The First Men ถูกใจข้อความนี้

Share This Page