วิดีโอนี้วิเคราะห์ดีครับ ใครที่คิดจะแต่งนิยายผมว่าจะมีประโยชน์มาก ผมจะสรุปให้คร่าวๆ นะเขาว่าไงบ้าง “จอร์จ มาร์ตินไม่ได้เขียนความตายหรืออะไรโหดๆ มั่วซั่วเพียงเพื่อให้คนช็อค แต่เขาบรรจงคัดสรรสิ่งเหล่านั้นมาแล้ว ความโหดร้ายเป็นเพียงเครื่องมือที่เขาใช้เพื่อพัฒนาตัวละครและสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้อ่าน” - ในเรื่องนี้ ผู้ชมและผู้อ่านรู้สึกผูกพัน รัก และห่วงใยตัวละครจริงๆ เพราะลุงทำให้เรา “เข้าถึงความรู้สึก (Empathy)” ของตัวละครเหล่านั้นได้ - ลุงใช้เทคนิกอะไร? ด้วยการให้ตัวละครหลักทุกตัว มีจุดอ่อน ไม่ใช่แค่ทางกาย แต่เป็นได้ทุกอย่างที่ทำให้ตัวละครนั้นๆ อยู่ในสถานะเสียเปรียบ เช่น จอน สโนว์เป็นลูกนอกสมรส ทีเรียนเป็นคนแคระ ผู้หญิงแทบทุกคนต้องเจออุปสรรคเพียงเพราะตนเป็นผู้หญิง ทุกปัญหาล้วนเกิดขึ้นมาจาก “ตัวตน” ของตัวละครทั้งสิ้น สิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงเอาใจช่วยและอยากให้ตัวละครเหล่านั้นฝ่าฟันอุปสรรคไปได้สำเร็จ - ยกตัวอย่าง เน็ด สตาร์ค เขาคือทหารที่กล้า ภักดี ซื่อตรง และมีศักดิ์ศรี แต่ข้อดีเหล่านั้นกลับกลายเป็นข้อเสียอย่างที่สุดเมื่อต้องไปเล่นการเมืองอยู่ในราชสำนัก เหตุนี้เองเราจึงเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ - แม้แต่ตัวละครที่ทีแรกเราไม่แคร์ ก็กลับกลายเป็นแคร์ขึ้นมาได้ เพราะระหว่างการดำเนินเรื่อง ลุงเจิร์มก็แย่งชิงบางอย่างที่สำคัญที่สุดของตัวละครนั้นๆ ไป ยกตัวอย่างเจมีผู้ภาคภูมิในฝีมือการต่อสู้แต่กลับถูกตัดมือขวา หรือในกรณีของธีออนที่อยากจะให้ทุกคนเคารพนับถือ มองเขาเป็นผู้เข้มแข็ง ก็กลับถูกทำลายตัวตนนั้นไปหมดสิ้นจนกลายเป็นเพียงบ่าวที่ต้องรับใช้ผู้อื่น จากนั้นก็เปิดทางให้ผู้อ่านได้เข้าใจความคิด เหตุผลของการกระทำ และความรู้สึกผิดที่คาใจตัวละครเหล่านั้น - แล้วถ้าเกิดเรื่องเดียวกันกับตัวละครที่เราแคร์แต่แรกแล้ว อย่างเน็ด สตาร์คล่ะ? ตายครับผม เน็ดถูกบีบให้โกหก ให้ทิ้งศักดิ์ศรีและยอมรับว่าตัวเองเป็นคนทรยศ ในวินาทีนั้นคาแรกเตอร์ของเน็ดก็ถือว่าตายไปแล้ว ที่จอฟฟรีสั่งประหารเป็นเพียงพิธีการเท่านั้นเอง - และข้อสุดท้ายที่น่าสนใจที่สุดในเรื่องความเทาของตัวละคร คือเราไม่ได้ตัดสินว่าตัวละครตัวนึงโดดๆ ว่าดีหรือชั่ว... แต่เราตัดสินโดยการ “เปรียบเทียบ” เช่น จอฟฟรี เลวกว่า เจมี ... เจมี เลวกว่า แบรน เป็นต้น พอเทียบกับจอฟฟรี แรมซีย์ หรือวัลเดอร์ เฟรย์แล้ว เจมีก็ดูเป็นคนดีไปโดยปริยาย