จริงๆ ก็ไม่เชิงสปอยเพราะเป็นแค่ทฤษฎีนะครับ แต่ขอใส่ สปอย ไว้ก่อนเพื่อความแน่ใจ เพราะเรากำลังเดาตอนจบกันอยู่ แหล่งข้อมูล: https://www.reddit.com/r/asoiaf/comments/23p48r/the_true_nature_and_purpose_of_the_others_and_the/ http://awoiaf.westeros.org/ http://art.marcsimonetti.com/ http://edition.cnn.com/2013/06/07/showbiz/tv/game-martin-red-wedding-ew/ http://www.rollingstone.com/tv/news/george-r-r-martin-the-rolling-stone-interview-20140423 http://www.assignmentx.com/2011/int...martin-on-the-future-of-the-franchise-part-2/ https://reddit.com/r/asoiaf/comments/39v11t/spoilers_all_my_own_theory_concerning_the_war_of/ https://www.reddit.com/r/gameofthrones/comments/387qlv/all_spoilers_how_will_game_of_thrones_end/ https://www.reddit.com/r/asoiaf/comments/3au270/lion_of_night_aa_and_yi_ti_spoilers_all/ ... ... มหาสงครามขับไล่เผ่าน้ำแข็ง... จริงหรือ? “อมนุษย์ (the Others)” โดย Marc Simonetti อันที่จริงใน Song if Ice and Fire ไม่มีคำว่าเผ่าน้ำแข็งหรอกครับ ผมแค่จั่วหัวว่างี้เพราะคิดว่าเข้าใจง่ายเท่านั้นเอง ในเรื่องจะมีคำว่า the Others (อมนุษย์) และ White Walker (เหมันตภูติ) เหมันตภูติ คือศัพท์ที่คนเถื่อนใช้ อมนุษย์ คือศัพท์ที่ชาวเวสเทอรอสทั่วๆ ไปใช้ ในซีรีส์ลดทอนให้ง่ายลงนิดหน่อยโดยการให้เรียก White Walker เหมือนกันทุกคน เราได้อ่านและได้รับฟังผ่านตัวละครมากมายว่าอมนุษย์ชั่วร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นปีศาจแบบนี้แบบนั้น “ปีศาจร้ายที่ถือกำเนิดจากหิมะ น้ำแข็ง และความเย็น” แสตนนิส - ผจญพายุดาบ “อมุษย์ไง พวกเหมันตภูติประจำป่า เงาลางที่เย็นเฉียบ ปีศาจพวกนั้นไง” แซมเวล - ผจญพายุดาบ มีฉากพวกมันยกกองทัพผีดิบมาฆ่าคนเป็นจำนวนมากที่ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้ร้ายให้กับผู้อ่าน/คนดู การฆ่าล้างฮาร์ดโฮมซึ่งเพิ่มเข้ามาในซีรีส์ กระทั่งตำนานและคำทำนาย ก็ยังชี้ไปในทางเดียวกันว่าจะต้องมีมหาศึกใหญ่เกิดขึ้น มาดูตำนานกันก่อน ตำนานทางเวสเทอรอส: ปัจฉิมวีรบุรุษ(Last Hero) เดินทางเข้าป่าตามหากุมารไพร พรรคพวกล้มตายจนเหลือเขาเพียงผู้เดียว และพอค้นพบเหล่ากุมาร เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจนพลิกกลับมามีชัยเหนืออมนุษย์และก่อตั้งหน่วยพิทักษ์ราตรีขึ้น ตำนานทางอาชชาย: อาชชายตั้งอยู่ทางตะวันออกจนตกแผนที่อย่างเป็นทางการไปแล้วเสียอีก แต่ที่นี่มีเหตุการณ์กลางคืนที่ยาวมากๆ แบบเดียวกับราตรีอนันต์ในเวสเทอรอส อาซอร์ อาฮายพยายามตีดาบขึ้นมาต่อสู้กับความมืดดังกล่าว เขาพยายามตีดาบขึ้นมา 3 หน - หนแรกใช้เวลาตี 30 วัน 30 คืน แต่พอชุบแข็งในน้ำ มันก็แตกเป็นเสี่ยง - หนที่สองใช้เวลา 50 วัน 50 คืน เขาจับสิงโตมาแทงดาบเข้าไปเพื่อชุบแข็ง มันก็แตกเช่นกัน - หนสุดท้ายเขาใช้เวลา 100 วัน 100 คืน และเรียกนิซ่านิซ่าน้องสาวมา สั่งให้เธอเปลือยอก แล้วแทงดาบทะลุหัวใจทั้งเป็น วิญญาณของเธอหลอมรวมเข้ากับดาบ ก่อกำเนิดเป็นไลท์บริงเกอร์ ดาบสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งมหาวีรบุรุษ หอกสมิงชัดๆ อาซอร์ อาฮายแทงดาบทะลุหัวใจเจี่ยเหมย... เอ้ย นิซ่านิซ่า ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองตำนานเกี่ยวข้องกันรึเปล่า แต่ขอแทรกเกร็ดเล็กน้อย GRRM ยืนยันด้วยตัวเอง ว่าโลกในเรื่องนี้ เป็นทรงกลม ประกอบกับเมืองอี้ติ (Yi Ti)... เมืองใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน The World of Ice and Fire ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของอาชชาย ปรากฏว่าในเมืองนี้ มี ราตรีอนันต์ (Long Night) เช่นเดียวกับเวสเทอรอส จักรพรรดิ์แห่งอี้ติ สร้างป้อมทั้งห้า(Five Forts)ขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากสิงโตราตรี(Lion of Night) มันช่างคล้ายผากำแพงกับอมนุษย์เสียนี่กระไร หรือว่าสิงโตราตรีจะเป็นเผ่าเดียวกับอมนุษย์... ศัตรูที่อาซอร์ อาฮายต่อสู้ด้วย ก็คือสิงโตราตรีนี่แหละ ... แล้วที่บอกว่าอาซอร์ อาฮาย จับสิงโตมาแทงดาบเพื่อชุบแข็ง หรือว่า...? น้ำเงิน คือป่าผีสิงนอกผากำแพง ส่วนสีเขียว คือป้อมทั้งห้า... ในเมื่อ GRRM ยืนยันแล้วว่าโลกนั้นเป็นทรงกลม หรือว่าทั้ง 2 แห่งนั้นจริงๆ แล้วอาจจะต่อกันขึ้นไปทางเหนือ ทำนองเดียวกับขั้วโลกเหนือของเรา? .. ... .... เอาละครับมาดูคำทำนายกันบ้างดีกว่า เมลิแซนเดอร์เชื่อมากๆ ว่าสงครามแต่ก่อนเก่า จะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งโดยมีอาซอร์ อาฮายผู้กลับชาติมาเกิด เป็นผู้นำทัพมนุษย์ใหญ่ต่อสู้กับอมนุษย์ กระทั่งคำพูดของตัวละครหลายๆ ตัวไม่ว่าจะจอน สโนว์หรือสแตนนิส ล้วนพูดทำนองว่าอมนุษย์คือบิ๊กบอสของเรื่องนี้กันทั้งนั้น “ศัตรูตั้งแต่ยุคโบราณ เป็นศัตรูเพียงพวกเดียวที่มีความหมาย” สแตนนิส - ผจญพายุดาบ “พวกเราเห็นโฉมหน้าศัตรูที่แท้จริงของเรามาแล้ว โฉมหน้าซีดขาวไร้ชีวิตที่มีดวงตาสีฟ้าเรืองรอง” จอน - มังกรร่อนระบำ และอีกมากมายที่ทำให้ทุกคนคาดว่าต้องมีสงครามระหว่างมนุษย์และอมนุษย์เป็นอย่างแน่แท้ที่สุด ซึ่ง... สมมุติว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ นวนิยาย/ซีรีส์นี้ก็คงไม่ได้ต่างจากนิยายแฟนตาซีอื่นๆ... อมนุษย์คือผู้ร้าย มนุษย์คือพระเอก มนุษย์ต้องลืมความขัดแย้งและรวมพลังกัน ทั้งเดนี จอน สแตนนิส แลนนิสเตอร์ สตาร์ค ฯลฯ เดนีนำมังกรไฟมาพ่นไฟเผา จอน ทีเรียนอาจจะขี่มังกรที่เหลือกันคนละตัว หรือแบรนอาจจะสิงสักตัวหนึ่ง เกิดมหาศึกครั้งสุดท้ายเพื่อขับไล่อมนุษย์และนำความสงบสุขกลับมาสู่มวลมนุษยชาติ จะชั่วคราวหรือถาวรก็ตามแต่ แต่ทว่า... --- George R.R. Martin ในบทสัมภาษณ์กับ CNN ก่อนหน้านี้ GRRM มีการฆ่าตัวละครอย่างคาดไม่ถึงไปมากมายหลายคน ซึ่งหลายคนคิดว่าอาจจะเป็นการบังหน้าเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้ เพราะคนดูจะพุ่งเป้าไปที่การตายของตัวละครที่ตนชอบ โดยไม่ทันเฉลียวใจการหักมุมของการดำเนินเรื่องในสเกลใหญ่กว่านั้น นอกจากนั้น เป็นไปได้ว่า GRRM อาจจะอาศัยงานเขียนของโทลคีนเป็นต้นแบบ เพื่อ “ฉีกแนว” ออกมา เช่นบทสัมภาษณ์บทนี้ GRRM --- บทสัมภาษณ์กับ Rolling Stone ผลก็คือ โรเบิร์ตทำอาณาจักรเป็นหนี้เละเทะ ราชบัลลังค์มีแต่หนอนบ่อนไส้ ... และเดเนอริสประสบปัญหามากมายในการครองอ่าวค้าทาส มีคนตายไม่เว้นแต่ละวัน และยังมีอันนี้ GRRM --- บทสัมภาษณ์กับ Assignment X ในลอร์ดออฟเดอะริงส์ มีเซารอนเป็นจอมมาร ซึ่งมนุษย์ เอลฟ์ และดวาร์ฟต้องรวมตัวกันรบครั้งใหญ่ในตอนท้าย จนได้มาซึ่งชัยชนะและความสงบสุขของมิดเดิ้ลเอิร์ธ ถ้า GRRM จงใจฉีกแนวจากนั้นจริงๆ ละก็ อาจจะแปลว่า A Song of Ice and Fire... ไม่ใช่ศึกระหว่างดีกับชั่ว และความสงบสุขคงไม่ได้มาด้วยการทำสงคราม หรือว่าอมนุษย์ ไม่ใช่ผู้ร้าย? ลองมาดูกันซิว่าพวกมันเป็นอะไรยังไง ทำอะไรได้บ้าง ผิวขาว ตาเรืองรองสีฟ้า อมนุษย์ไปไหน ที่นั่นจะหนาว... หรือกลับกัน? ถ้าความหนาวแผ่ไปที่ไหน อมนุษย์ถึงจะไปที่นั่นได้? ฆ่าคน... ใช่ ฆ่าคนแน่นอน แต่ไม่ได้ฆ่าดะไปหมด พวกมันไม่ได้จู่โจมคนเถื่อนแต่เพียงต้อนพวกเขาให้อพยพลงใต้ แต่พอหน่วยพิทักษ์ราตรีกรีฑาขึ้นเหนือ อมนุษย์ถึงกับยกทัพใหญ่จู่โจม ฮาร์ดโฮมตามหนังสือ ก็เป็นจุดที่คนเถื่อน “ถอยไป” จากผากำแพง สมสู่กับมนุษย์ จากเรื่องเล่าของยายแนน และตำนานพระราชารัตติกาล ขโมยเด็ก จากเรื่องเล่าของยายแนน นำเด็กไปเปลี่ยนเป็นพวกตัวเอง จากที่เห็นในซีรีส์ กลัวไฟ ดังนั้นน่าจะกลัวมังกร ถ้าสัมผัสศพ ศพนั้นจะกลายเป็นผีดิบ อมนุษย์สร้างผีดิบจำนวนมากมายเหมือนกำลังสร้างกองทัพ สามารถทำผีดิบจากซากสัตว์ได้ด้วย มีชีวิต... ตอนแซมแทงมันด้วยแก้วมังกร เราได้เห็นแล้วว่ามันมีเลือด ลุง GRRM เองก็มีกล่าวไว้ว่าพวกมันไม่ตาย แค่แตกต่าง งดงาม เป็นชีวิตอีกประเภทนึงซึ่งมีความสละสลวยและอันตราย ไม่ใช่แค่มีภาษาสื่อสารกันได้ พวกมันยังหัวเราะและกรีดร้องแสดงความเจ็บปวดได้ด้วย สามารถสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นจากน้ำแข็ง ข้อสุดท้ายมาร์กไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาพูดถึงกันต่อ รวมๆ แล้วพวกมันไม่ใช่ปีศาจอย่างที่ตัวละครหลายๆ ตัวว่า มันมีปัญญา มีอารมณ์ มีความรู้สึก หรืออาจถึงขั้นมีอารยธรรมเป็นของตัวเองเลยก็ได้ และที่สำคัญคือ มันมีชีวิต มีชีวิตแน่นอนไม่ใช่ซากศพแบบที่ตัวละครหลายๆ คนให้คำจำกัดความ แถมพวกมันยังสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ด้วย ดังที่มีตัวอย่างให้เห็นแล้วในกรณีคราสเตอร์ คราสเตอร์เรียกอมนุษย์เป็นเทพเจ้าและบอกว่าเทพเจ้าคุ้มครองเขาอยู่ และเราเรียนรู้ในเวลาต่อมาว่าคราสเตอร์ยกลูกชายให้อมนุษย์ แสดงว่าต้องมีการพูดคุยตกลงกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ในซีรีส์ พวกมันเหมือนจะเอาตัวเด็กไปเปลี่ยนให้เป็นเหมันตภูติ ในหนังสือ เมียคนหนึ่งของคราวเตอร์เรียกอมนุษย์ว่า “พวกลูกชายของคราสเตอร์”... คราสเตอร์ต้องไม่ใช่คนเดียวที่ทำอย่างนี้แน่ๆ ดินแดนนอกผากำแพงกว้างใหญ่ไพศาลมาก และในหนังสือกล่าวว่ายังมีคนเถื่อนเผ่าอื่นๆ อีกที่เคารพบูชาเทพหิมะและน้ำแข็ง นั่นอาจจะเป็นวิธีขยายพันธุ์ของอมนุษย์กระมัง? เป็นไปได้ว่าพิธีกรรมนี้ปฏิบัติกันในวงกว้างและมีประวัติยาวนานกว่าที่เราคิด ถึงขนาดกลายมาเป็นคำสบถที่ใช้กันทั่วเวสเทอรอส กระทั่งโรเบิร์ตที่ไม่ใช่ชาวเหนือยังสบถแบบนี้ตอนเอ็ดดาร์ดถามถึงเซอร์ซี ให้ เอาตัวไป ... ไม่ใช่ให้ฆ่า ให้ตัดหัว ให้ทรมาน หรือให้อะไรทั้งนั้น แต่เป็น ให้เอาตัวไป นอกจากนั้น คนเถื่อนก็มีเรื่องเล่าว่าอมนุษย์ชิงตัวผู้หญิงไปเป็นภรรยา ทั้งยังมีตำนานของราชารัตติกาล (Night's King) ที่เหมือนเขาจะแต่งงานสมสู่กับอมนุษย์ผู้หญิงด้วย อนึ่ง ราชารัตติกาล สะกดว่า Night's King... ส่วนตัวนี้ในซีรีส์ สะกด Night King ต่างกันและน่าจะเป็นคนละตัวกัน จากตรงนี้... คิดว่าคงพอสรุปได้ว่า อมนุษย์ มีการขยายพันธุ์ด้วยการนำเด็กมนุษย์ไปเปลี่ยนเป็นพวกตัวเอง ถ้ามนุษย์ตายหมด พวกมันก็ขยายเผ่าพันธุ์ไม่ได้ ถึงจะยังไม่มีข้อมูลว่าพวกมันมีอายุเท่าไหร่แต่ไม่น่าจะเป็นอมตะ ดังนั้นการฆ่าล้างมนุษย์ให้สิ้นซาก จึงไม่น่าใช่เป้าหมายของพวกมัน ย้อนกลับไปข้อที่มาร์กไว้ก่อนหน้านี้ ว่า อมนุษย์สามารถสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นจากน้ำแข็ง เคยมีคนถามว่า GRRM ดาบของอมนุษย์ทำจากอะไร นี่คือคำตอบของ GRRM GRRM --- ในบทสัมภาษณ์ Interview with the Dragon และเดาสิครับ ว่า ผากำแพงสร้างจากอะไร... ถูกต้อง น้ำแข็ง ป้อมกระจ้อยที่มนุษย์สร้าง หน้าตายังไง๊ยังไงก็เป็นผลงานมนุษย์แน่นอน แล้วผากำแพงมหึมานั่นล่ะหน้าตามันเหมือนผลงานมนุษย์ไหม? ในหนังสือมีบอกว่าปฐมบุรุษขุดน้ำแข็งจากทะเลสาบมาสร้างเป็นผากำแพง แต่ลองคิดดูว่ากำแพงสูงขนาดนั้น ยาวขนาดนั้น มันจะทำแบบนั้นจริงๆ หรือ ถ้าทำได้ก็คงต้องกินเวลาหลายร้อยปีเลยกระมัง ไม่น่าจะสร้างเสร็จในยุคของแบรนผู้สร้างเพียงคนเดียว และนี่จึงเป็นที่มาของทฤษฎีนี้... มนุษย์ และอมนุษย์ เคยทำสนธิสัญญาสงบศึกกันมาก่อน และช่วยกันสร้างผากำแพงขึ้นมา และในเมื่อตามตำนาน กุมารไพรก็มีส่วนช่วยปัจฉิมวีรบุรุษ สัญญานั้นอาจจะเป็นสัญญา 3 ทางระหว่างทั้ง 3 เผ่าเลยก็เป็นได้ สิ่งที่เป็นไปได้ในสนธิสัญญาดังกล่าว - มนุษย์อาจจะต้องส่งเด็กให้พวกมัน เหมือนกับที่คราสเตอร์ทำ และมีความเป็นไปได้สูงมากที่หน่วยพิทักษ์ราตรีรุ่นแรกๆ ก็ส่งเด็กด้วยเช่นกัน เพราะไนท์ฟอ์ทซึ่งเป็นปราสาทเก่าแก่ที่สุดของหน่วยพิทักษ์ มีเส้นทางลับ Blackgate อยู่ใต้ปราสาท ซึ่งมีอายุพอๆ กับผากำแพง มันมีไว้ทำไม... เพื่อใช้ลำเลียงเด็กให้อมนุษย์รึเปล่า? ยอดวีรบุรุษ ซีเมียนดารานัยน์ ตามตำนานเขาก็เคยไปเยี่ยมไนท์ฟอร์ทเช่นกัน เขาตาบอด 2 ข้าง และใส่แซฟไฟร์เข้าไปแทน... จริงรึ? รู้ใช่ไหมครับว่าแซฟไฟร์สีอะไร... - มีการแบ่งเขตกันอย่างชัดเจนเหมือนกุมารไพรอยู่ป่า ปฐมบุรุษอยู่ที่ราบ... พวกเขาอาจตกลงกันว่าให้อมนุษย์ได้ดินแดนทางเหนือของกำแพงไปก็ได้ ดังนั้นพวกมันจึงเพียงต้อนคนเถื่อนลงใต้ แต่เมื่อมอร์มอนท์กรีฑาทัพเข้าไป ก็จึงเป็นการล่วงละเมิดสนธิสัญญา พวกมันจึงเข้าจู่โจม แต่อย่างว่าสนธิสัญญามันโบราณมากจนไม่มีใครจำได้แล้ว พอมาคิดมาถึงจุดนี้ ตำนานต่างๆ มากมายที่กล่าวถึงมหาศึกในอดีต จริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ ทั้งปัจฉิมวีรบุรุษและอาซอร์ อาฮาย แท้จริงแล้วอาจจะไม่ได้ใช้กำลังเข้าต่อกรกับอมนุษย์ เพราะลองคิดดูสิครับว่าแค่ผีดิบ มันก็พละกำลังเหนือกว่ามนุษย์ที่ยังมีชีวิตเป็นไหนๆ แค่ได้ดาบไฟมาเล่มนึงถึงกับพลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้เลยหรือ? แถมการบันทึกประวัติศาสตร์ในเวสเทอรอสเเพิ่งจะเริ่มทำกันหลังจากชาวแอนดัลเข้ามายังเวสเทอรอสแล้ว ตำนานโบราณล้วนแต่เล่ากันมาปากต่อปาก จริงเท็จเพียงใด ไม่มีใครยืนยันได้เลย ยังไม่นับว่าตัวละครในเรื่องนี้เอง ก็คอยย้ำให้เราฟังบ่อยๆ ว่าตำนานพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเชื่อ 100% ดังนั้น ตามทฤษฎีนี้ บทสรุปของมหากาพย์เรื่องนี้ คือการทำสนธิสัญญาสงบศึกกับอมนุษย์นั่นเอง และยังมีคนสันนิษฐานด้วย ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ชาวเหนือ เผลอๆ จะมีสายเลือดของอมนุษย์อยู่ในตัวด้วยก็ได้ อาจเป็นเหตุผลที่เด็กๆ ตระกูลสตาร์คอยู่ๆ ก็ปลุกความสามารถในการย้ายจิตขึ้นมาได้เฉยๆ ข้อสนับสนุนทฤษฎีนี้อีกอย่างหนึ่ง คือตัว GRRM เองที่เป็นคนแอนตี้สงครามมาก ในเรื่องนี้เขาแสดงให้เราเห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าสงครามไม่ได้ทำให้เกิดอะไร ดีๆ ขึ้นมาเลย มีแต่ผู้คนล้มตาย ชาวบ้านเดือดร้อน แผ่นดินลุกเป็นไฟไปหมด... อุตส่าห์ทำมาขนาดนั้นแต่กลับจะปิดฉากมหากาพย์นี้ด้วยมหาสงครามเพื่อมวล มนุษย์ มันจะย้อนแย้งไปหน่อยไหม .. ... .... ทีนี้ใครล่ะที่น่าจะเหมาะสำหรับเจรจาที่สุด? คนที่เจรจาแล้วเรื่องจบเลย อาจจะดีเกินจริงไปหน่อย น่าจะเป็น เดเนอริส ลองคิดดูสิครับว่าถ้าสุดท้าย อมนุษย์(น้ำแข็ง) และมังกร(ไฟ) สามารถตกลงกันได้ โลกก็น่าจะสงบสุขน่าดู เดเนอริสเองก็ได้รับบทเรียนมากมายในอ่าวค้าทาสจนเริ่มจะรู้จักเจรจากับศัตรูขึ้นมาบ้างแล้วด้วย ส่วนคนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเปิดใจคุยกับอมนุษย์ได้ที่สุด คงไม่พ้นจอน สโนว์ คนนี้พิสูจน์ให้เห็นกันจะๆ แล้วจากกรณีการรับคนเถื่อนเป็นพรรคพวก แต่ยังไงต้องดูกันก่อนว่าเขาตายไม่ตายอย่างไร และนี่อาจเพิ่มความซับซ้อนให้เรื่องนี้เข้าไปอีกหน่อย เพราะจะวาง จอน สโนว์ เป็นศัตรูกับเดนีผู้มีมังกร ทีเรียนเองก็เป็นคนที่มีฝีปากใช่ย่อย แต่ที่อยากพูดถึงตรงนี้ คือ เจมี แลนนิสเตอร์... ถึงในซีรีส์จะไม่ชัดเท่าในหนังสือ แต่เขาเริ่มเรียนรู้ศาสตร์ทางการฑูตและเริ่มรู้จักเห็นอกเห็นใจศัตรูขึ้นมาอย่างมากในเนื้อเรื่องช่วงหลังๆ ของเขา เป็นอีกคนนึงที่น่าจับตาครับ ขอทิ้งท้ายด้วย Quote จาก Showrunner ของซีรีส์นี้นะครับ David Benioff --- Showrunner ของ Game of Thrones ในดีวีดีเบื้องหลังซีซัน 3
เรื่องนี้ก็อาจเป็นไปได้นะครับ แต่ลุงจอร์จจะจบเรื่องอมนุษย์ยังไงในสองเล่มที่เหลือนี่สิ เพราะเรื่องที่ปูไว้นี่หลายเรื่องยังไม่ไม่มีแววว่าจะจบเลย อาจจะสรุปเรื่องอมนุษย์เป็นแนวๆตำนาน แล้วออกหนังสือเสริมเอา