"Spoilers" ความเป็นไปใน SS4 (V.2)

หลังจาก Got Season 3 ได้จบ SS ลง พวกเราชาว Westeros ก็ได้แต่เฝ้ารอร้อรอ ว่าเมื่อไหร่จะได้ดู SS4 กันสักที แต่อย่างไรก็ตามจินตนาการสุดโต่งของเราก็คงไม่ได้จบลงไปด้วย เพราะการที่ได้รับรู้เรื่องราวข่าวสารจากเหล่า Spoilers ผู้ที่ได้ติดตามอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลจาก A Song of Ice and Fireทั้งหลาย มันก็ทำให้พวกเรายังคงมีประเด็นถกกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

สำหรับนักอ่านทั้งหลายคงทราบดีว่า เหตุการณ์ใน Got SS4 อยู่ในส่วนครึ่งหลังของ A Storm of Swords ดังนั้นมันก็พอจะคาดเดาได้ว่า จะมีเหตุการณ์ใดบ้างที่จะปรากฎใน Got SS4 ที่พวกเราจะได้ชมกันในปีหน้า

ในตอนท้ายของ SS3 Jaime ได้กลับสู่ King Landing อีกครั้ง หลังจากที่เขาต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายกลายเป็นเดชไอ้ด้วนพิกลพิการไร้ซึ่งมือขวาที่เคยจับดาบ และเกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอดหากไม่ได้เป็นเพราะบารมีของ Tywin Lannister ผู้เป็นบิดา และความช่วยเหลือของ Brienne of tarth ผู้ทำหน้าที่อารักษ์ขา Jaime จนกว่าจะส่งตัวเขาถึง King Landing ตามคำสั่งของ Lady Catelyn Stark

แม้ว่าทั้งคู่จะพึ่งพาอาศัยและร่วมทุกร่วมสุขกันมาตลอด SS3 จนเกิดความเห็นหน้าอกหน้าใจกันเข้าให้แล้วก็ตาม แต่สุดสวาทขาดใจของ Jaime Lannister ก็คงจะเป็นใครอื่นไปเสียมิได้นอกจาก Cersei Lannister น้องสาวและยอดยาใจของเขานั่นเอง

บทบาทของ Jaime ใน The Purple Wedding
เป็นที่น่าติดตามว่าบทบาทของ Jaime ใน TV Series จะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อผู้กำกับตั้งใจให้ Jaime กลับถึง King Landing เร็วกว่ากำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า Jaime จะมีบทบาทอย่างไรบ้างในช่วงพิธีอภิเษกสมรสนี้ (ในหนังสือ Jaime จะกลับถึง King Landing ภายหลังจากพิธีอภิเษกสมรส The Purple Wedding ซึ่งเป็นวาระสุดท้ายของ King Joffrey )

สัมพันธสวาท ระหว่าง Jaime กับ Carsei
ในหนังสือ ภายหลังจาก The Purple Wedding ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง Jaime และ Carsei เริ่มถึงจุดพลิกผัน เมื่อ Jamie เลือกที่จะปฏิเสธและไม่เชื่อ Carsei ว่า Tyrion เป็นคนวางยาพิษ Joffrey ลูกชายอันเป็นที่รักยิ่งของเธอ ซึ่งใน TV Series เป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ช่วงแรกความสัมพันธ์ระหว่าง Jamie & Carsei ยังคงชื่นมื่นและหอมหวานเหมือนเคย เพราะเหตุที่ทั้งคู่ต้องพรากจากกันไปนาน ตลอด SS2 และ SS3 ที่ผ่านมา จนกว่าจะถึงเหตุการณ์ใน The Purple Wedding ที่พวกเราคงต้องคอยติดตามกันต่อไป

ท่าทีของ Tywin Lannister เมื่อเห็นเดชไอ้ด้วน
Jamie เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ Tywin ที่จะภาคภูมิใจได้ แต่เมื่อเขาได้เห็นว่า Jamie ได้กลายเป็นเดชไอ้ด้วนไปซะแล้ว ซึ่งไร้ความสามารถที่เหมาะสมจะเป็น Kingsguard ได้อีกต่อไป Tywin โกรธเกรี้ยวมากจึงได้สั่งปลด Jamie ออกจากการเป็น Kingsguard ซึ่งถือเป็นการปลดปล่อยภารกิจและการให้สัตยบัณย์ที่จะไม่แต่งงานหรือมีทายาทเช่นกัน ทำให้เขามีสิทธิ์ทีจะเป็นทายาทครอบครอง Casterly Rock ต่อไปได้ แต่สำหรับ Jamie แล้วเขาจะรับได้หรือไม่ เมื่อจะต้องถูกผู้เป็นบิดาดูแคลน เช่นเดียวกับที่ Tyrion ซึ่งโดนมาทั้งชีวิต (ดีใจจัง The Imp มีพวกแล้ว) อย่างไรก็ตามการไม่ยอมแพ้ของ Jamie ก็แสดงให้เห็นว่าเขายังคงสามารถใช้ดาบมือซ้ายได้ดีทีเดียว จนทำให้เขาได้รับตำแหน่ง Lord Commander ในที่สุด

Jaime ให้ความช่วยเหลือ Tyrion ในการหลบหนี (ซึ่งเราคาดว่าจะได้เห็นใน TV Series เช่นเดียวกัน)
Jaime แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้อยู่ใต้อาณัติสวาทของ Carsei อีกต่อไป เมื่อเขาเชื่อว่า Tyrion ไม่มีทางฆ่า Joffrey แน่จึงได้ตัดสินใจร่วมมือกับ Lord Varys ช่วย Tyrion ซึ่งได้รับโทษประหารให้หลบหนีจาก King Landing

คำสารภาพของ Jaime
ก่อนที่ Tyrion จะหลบหนีออกจาก King Landing Jaime บอกความจริงกับ Tyrion เรื่อง Tysha หญิงที่ Tyrion แต่งงานด้วย ว่าเธอไม่ได้เป็นเป็นโสเภณี Tysha และเธอก็รักในตัวของ Tyrion จริง ๆ แต่ Tywin ผู้เป็นบิดาไม่พอใจกสั่งลูกน้องให้ข่มขืนเธอและบังคับให้เขาโกหก Tyrion ว่าหล่อนเป็นโสเภณี ด้วยความโกรธ Tyrion ตอบ Jaime ว่าเขาโกหกที่ว่าเขาไม่ได้ฆ่า Joffrey และยังบอกความลับเรื่อง Cersei เป็นชู้กับ lancel lannister และ Ser Osmund Kettleblack (ยังไม่มีใน TV Series) ให้ Jaime รู้
อีกด้วย

​

Jaime ให้ความสำคัญในตัว Brienne
ภายหลังจาก The Purple Wedding - Tommen baratheon น้องชายของ Joffrey ขึ้นครองราชย์ต่อ


Jaimeได้นำสารของพระราชามอบหมายให้ Brienne ไปตามหา Arya และ Sansa (Sansa ซึ่งหายตัวไปหลังจาก The Purple Wedding) นอกจากนั้นเขายังมอบดาบที่ทำจากเหล็ก Valyrian (Ice Ned Stark's greatsword) ให้เป็นอาวุธประจำกายของ Brienne ซึ่งน่าจะเป็นการตอบย้ำและตอบแทนความสัมพันธ์อันดีที่ทั้งคู่มีต่อกัน

มันเหมือนจะเป็น Season ที่เป็นจุดตกต่ำของ Tyrion
Tyrion พบกับ The Red Viper Oberyn Martell " The Red Viper " มาถึงยัง King Landing ด้วยไฟแค้นเขาบอกความจริง กับ Tyrion ว่าเขาต้องการมาล้างแค้นให้กับพี่สาวของเขา Elia Martell มเหสีของ Rhaegar Targaryen เมื่อครั้งที่ Robert ก่อกบฎ King Landing ถูกล้อมไปด้วยทหารของ Lannister ซึ่ง Elia ถูกข่มขืนและฆ่าตายพร้อมกันลูกน้อยทั้ง 2 ของเธอโดย The Mountain พี่ชายของ The Hound จากคำสั่งของ Tywin Lannister

The Imp เสียความไว้วางใจในตัวเพื่อนๆ ของเขา
คนแรก Bronn เมื่อเขาปฎิเสธที่จะเป็นตัวแทน Tyrion ในการประลอง กับ The Mountain ตัวแทนของ Cersei (Cersei ซื้อตัว Bronn และจริง ๆ แล้ว Bronn ก็ไม่อยากสู้กับ The Mountain อยู่แล้ว)

คนที่ 2 Lord Varys ในการตายของ Joffrey แขกเหลื่อทุกคนต่างเป็นพยานว่า Tyrion ได้ขู่ฆ่า Joffrey ก่อนที่เขาจะตาย รวมทั้ง Lord Varys

แตที่น่าเจ็บใจที่สุด แม้แต่คือ Shae คนรักของ Tyrion เองก็ตามเมื่อ Tyrion พบเธอบนเตียงของ Tywin

The Mountain vs. The Red Viper
Red Viper ซึ่งให้คำมั่นว่าเขาจะเป็นผู้ชนะนามของ Tyrion ในการประลองการต่อสู่ครั้งนี้ (การประลองเพื่อตัดสินโทษของ Tyrion) แต่จุดประสงค์ทีแท้จริงคือต้องการล้างแค้น The Mountain ภายหลังการต่อสู่ที่ตื้นเต้นเร้าใจทีสุดตอนหนึ่ง Red Viper ก็สามารสยบ The Mountain ลงแทบเท้าของเขา ก่อนที่จะสังหาร Red Viper ทวงถามให้ Mountain สำนึกในการตายของ Elia และลูก ๆ The Mountain ใช้จังหวะนี้พลิกเป็นฝ่ายได้เปรียบและสามารถปลดอาวุธของ Viper ได้ในที่สุด Mountain ยอมรับในความผิดที่ Viper ทวงถาม ก่อนทีตัดคอ Viper ท่ามกลางความตกตะลึงของ Tyrion


Tyrion ใน The Purple Wedding งานแต่งงานของ Joffrey กับ Margaery Tyrell ซึ่งเต็มไปด้วยแขกเหลื่อชั้นสูงแห่ง Westeros งานนี้คนที่จะโดดเด่นที่สุดคงไม่พ้น Joffrey เจ้าของงานแต่ง เขาคงจะรื่นเริงเต็มที่การงานแต่งงาน ซึ่ง Joffrey ซึ่งคงมีความคับแค้นใจในลุงของตน (โดน Tyrion ตบกบาลไปหลายที) ในงานแต่งมีคนแคระมาขี่หมู ขี่หมาประลองกัน Joffrey ซึ่งมักจะหัก Tyrion ต่อหน้าฝูงชน (ถ้าจำได้ในงานแต่ของ Tyrion กับ Sansa เขาดึงเก้าอี้ออกตอน Tyrion จะติดเข็มให้กับ Sansa) Joffrey ให้ Tyrion ถือแก้วไวน์ ไว้ ก่อนที่เขาจะประการชวนให้ Tyrion สวมเกราะเพื่อต่อสู่กับคนแคระด้วย Tyrion สวนกลับว่า Joffrey คือศัตรูคนเดียวที่เขาหมายปองที่จะต่อกรในคืนนี้ และเมื่อ Joffrey นำไวน์ของเขากลับมาดื่ม เขาก็เริ่มหายใจไม่ออกก่อนถ้าใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง (ที่มาของ The Purple Wedding) และขาดใจตายในที่สุด Tyrion ถูกจับทันทีที่ Joffrey พร้อม ๆ กับลมหายใจสุดท้ายของเขา Cersei ตะโกนร้องว่าเขาถูกวางยาพิษ โดย Tyrion (Tyrion ปฎิเสธว่าเขาไม่ได้ทำ) ระหว่างที่เหตุการณ์กำลังชลมุนวุ่นว่ายนี้น Sansa ลอบหนีออกไป และ Tyrion ถูกจับและพิพากษาประหารชีวิตในข้อหาฆาตกรรมของกษัตริย์ Joffrey

Tyrion ลอบหนีออกจาก King Landing
ขณะรอการประหาร Jaime ช่วยให้ Tyrion โดย Lord Varys ได้วางแผนการหนี้ไว้แล้ว Tyrion ถาม Jaime ช่วยเขาทำไม Jaime สำนึกผิดที่โกหก Tyrion เรื่อง Tysha ภรรยาคนแรกของเขาว่าเป็นโสเภณีปลอมตัวมาหลอกให้ Tyrion หลงรัก จริงแล้วเธอเป็นหญิงสาวบริสุทธ์ที่รักใน Tyrion จริง ๆ ซึ้งทั้งหมดเป็นแผนของ Tywin พ่อของเขาทั้งสอง รวมทั้งคนทั้ง 20 คนที่ขมขืน Tysha ต่อหน้า Tyrion ด้วย Tyrion โกรธมากและบอก Jaime คราวหน้าที่เจอกันเขาจะฆ่า Jaime ซะ พร้อมกับบอกว่า จริง ๆ แล้วเขานี่แหละเป็นคนฆ่า Joffrey เอง

Tyrion ปิตุฆาต Tywin
ก่อนจะลอบหนีจาก King Landing Tyrion กำลังคลั่งเรื่อง Tysha ต้องการรู้ความจริงจากปากของบิดาของเขาว่าทำไปเพื่ออะไร Tyrion บอก Varys เขาต้องการจะบอกลาบิดา เมื่อเขาย่องเข้าไปในห้องของ Tywin เขาพบว่า Shae นอนอยู่บนเตียงของ Tywin

Tyrion ถาม Tywin เกี่ยวกับเรื่องของ Tysha ว่าทำแบบนี้กับเขาทำไม และเรื่องของ Tysha Tywin พร่ำพูดแต่คำว่า “โสเภณี” ย้ำแล้วย้ำอีก Tyrion จึงสังหารบิดาของตน (ขวานจาม) ก่อนที่จะลอบหลบหนีไป

เผชิญหน้ากับ เมือง Mereen
หลังจากปลดปล่อยทาสใน Astapor และ Yunkai, Dany ก็เดินทางมาถึงเมือง Mereen ในหนังสือ Danys ส่ง Belwas ทาสนักรบอดีตสหายของ Barristan Selmy ในการเผชิญหน้ากับกองทัพ Mereen แต่สำหรับใน TV Series ผู้นำการรบครั้งนี้อาจจะเป็น Daario หรือ Grey Worm หรือ Ser Jorah ก็เป็นได้ สำหรับทาสในเมือง Mereen นั้นแตกต่างออกไปจากเมือง Astapor และ Yunkai เป็นไปได้ Dany อาจจะต้องใช้มังกรเข้าช่วยในการรบครั้งนี้

​

Dany ขับไล่ Jorah
Dany รู้ว่า Ser Jorah เคยเป็นสายของ Robert เธอรู้สึกสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวของ Jorah ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานชัดเจนเรื่องการทรยศของเขา ในหนังสือ Barristan Selmy เป็นคนบอกเธอเรื่องนี้ แต่ตามที่เราได้ดูจาก TV Series ใน SS ก่อน จะเห็นว่า Jorah มีความจงรักภักดีในตัว Dany และคงไม่คิดที่จะทรยศ Dany เป็นอันขาด หากแต่ในความภักดีนั้น กลับแฝงไปด้วยความหึงหวงและความรักที่เขามีต่อเธอนั้นมันลึกซึ้งมากว่าแค่การจงรักภักดี และยิ่งตอนนี้มีหนุ่มหน้ามน Daario เข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่างหาก ถ้าจะคาดเดาดูแล้วอาจเป็นเพราะความหึงหวงที่เกินขอบเขตของ Jorah นี่แหละที่เป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ให้ขาดสะบั้นลงในที่สุด จนทำให้ Dany เลือกตัดสินใจขับไล่ Jorah ออกจากแค้มป์ของเธอ




ในที่สุด Dany ก็ได้เป็นราชีนี
อย่าเพิ่งตกใจไป ว่า Dany และกองทัพรวมทั้งมังกรของเธอจะพิชิต Westeros ได้เร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ Dany ตัดสินใจที่จะปกครองเมือง Mereen เพื่อรับผิดชอบบรรดาชาวเมืองที่ไม่ยอมรับในความเป็นอิสระของตน แต่ในเรื่องการปกครองเมืองแล้วมันเป็นเรื่องใหม่สำหรับเธอ และจะสามารถปกครองเมืองได้อย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งเป็นไปได้ว่าถ้าเธอทำมันได้ดี และมีความสุขกับประชาชนของเธอแล้ว Dany อาจไม่คิดที่จะข้ามมาชิงบัลลังค์เหล็กอีกก็เป็นได้ (ไม่นะ ผมไม่ต้องการให้บทสรุปมันเป็นแบบนี้)

Dany จะทำอย่างไรเมื่อมังกรอาละวาด
มังกรเริ่มโตขึ้นความคึกคะนองและสัญชาติญานการทำลายล้างในตัวของพวกมัน ก็ทวีพลังมากขึ้นจนเกินจะควบคุมได้ แต่อย่างไรผมเชื่อว่ามันยังคงรักและภักดีต่อ Dany แม่ของพวกมันอยู่แล้ว


ความสัมพันธ์ของ Dany กับ Daario จะลึกซึ้งถึงขั้นไหน เพราะดูท่าทางเธอจะชอบ Daario ไม่น้อย

Tyrion.... (T_T)

ทีเรียนน่าสงสารสุด

ทีเรียนก็ได้ไปพจญภัย ในต่างแดน ท้ายๆเล่ม 5 ถึงจะได้กลับบ้าน

เบลิซคือผู้ชนะ

อีกๆๆๆๆ

ผมว่าเจมี่จะเข้าใจความรู้สึกของทีเรี่ยนแน่ๆ ส่วนทีเรี่ยนผมยังงงอยู่ว่าไปโกรธเจมี่ทำไม ในเมื่อเจมี่ถูกไทวินบังคับให้บอกทีเรี่ยนแบบนั้น แล้วทำไมทีเรี่ยนถึงไปบอกเจมี่ว่าตัวเองเป็นคนวางยาทั้งๆที่ไม่ได้ทำ ผมหล่ะงง แล้วทำไมไทวินจะต้องไปขัดขวางความสุขทุกๆอย่างของทีเรี่ยนด้วย ผมหล่ะงงจิงๆ

ทีเรียนคงโกรธพี่ที่ร่วมมือกับพ่อปิดบังเขามานาน คือปกติทีเรียนเชื่อใจเจมี่มาตลอดว่าเป็นเพียงคนเดียวที่หวังดีต่อเขาจริงๆ
แต่เจมีกลับโกหกเขาเพียงเพราะพ่อบังคับ แต่เราว่าเจมีสารภาพก็ดีเท่าไหร่แล้ว
ดังนั้นก็เลยอยากทำร้ายจิตใจเจมี่ด้วยการบอกว่าเขานี่แหละที่ฆ่าลูกพี่ชาย

ส่วนไทวินก็คิดว่าทีเรียนไม่ใช่ลูกอยู่แล้ว(เพราะมีเหตุอันน่าเชื่่อว่าเมียตัวเองถูกคนอื่นข่มขืน) ก็เลยแค่อยากให้ลูกชายคนแคระหัดมีประสบการณ์ทางเพศบ้าง เพราะขืนอยู่เฉยๆคงไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจ ไม่ได้อยากให้แต่งกับลูกสาวชาวนา(แต่ทีเรียนดันหลงรักเขาจริงๆจังๆถึงขั้นประกอบพิธีแต่งงาน) ไทวินหมันไส้เลยทำร้ายจิตใจทีเรียนว่าผู้หญิงเขาไม่ได้รักแกจริงๆหรอก เขาทำเพื่อเงินเท่านั้น
เหมือนไทวินจะไม่ชอบผู้ชายเสเพลนะ อาจเพราะตัวแกก็รักเดียวใจเดียว เจมี่ก็เหมือนกัน แต่ทีเรียนกลับชอบเที่ยวผู้หญิง ดื่มเหล้า เล่นพนัน ก็เลยทำให้ไทวินไม่ปลื้ม

งานนี้คงเป็นไปตามคำทำนาย และในนิมิตของตัวละครละครับ สิ่งที่จะเกิดในอนาคต จากกระทู้ที่มีคนตั้งไว้ถึงคำทำนายและนิมิตของตัวละครต่างๆ ในเรื่อง ทั้งเดนี่ เจมี่ ทีเรี่ยน โดยเฉพาะกระทู้นี้ ของทีเรี่ยนและเจมี่ สอดคล้องกันอย่างมากกับความฝันหรือนิมิตที่ทั้งคู่เห็น อันนึงที่สำคัญคือ ทีเรี่ยนบอกเจอกันครั้งหน้าจะฆ่าเจมี่ แน่ๆ เพราะในนิมิตหรือความฝันของทีเรี่ยนเอง ก็ฝันว่าตนเองฆ่าเจมี่ตายกับมือในสงคราม สุดท้ายทีเรี่ยนก็เป็นบ้า... น่าเศร้ายิ่งนัก เป็นตัวละครที่แสนจะอาภัพฝุดๆ T__T

Sansa Escape
หลังจากที่เธอพลาดโอกาสที่จะหลบหนีจาก King Landing ภายใต้ความช่วยเหลือของ Littlefinger ในครั้งก่อน ๆ เมื่อเธอกำลังให้ความสนใจในหนุ่มหล่อคนใหม่อยาง Ser Loras ที่หวังว่าจะได้อภิเสกด้วย เหตุการณ์กับตลปัด ลงเอยด้วยการถูกยกให้เป็นของขวัญชิ้นงามแก่ The Imp คนที่เธอไม่แม้แต่จะคิดซึ่งมันทำให้เธอหมดอาลัยตายอยาก และแล้วโอกาสที่จะหนีออกจาก King Landing ครั้งใหม่โดยความช่วยเหลือของ Dontos (Dontos คือ คนที่ Sansa เอ่ยขอให้ชีวิตไว้เมื่อครั้งการประลองในวันเกิดของ Joffrey SS2)

แต่แท้จริงเป็นอุบายของ Littlefinger ซึ่งภายหลังจากที่ Sansa อาศัยช่วงชลมุน วุ่นวายจาก The Purple Wedding หลบหนีออกมาที่เรือเธอฉงนใจไม่น้อยเมือพบ Littlefinger รอเธออยู่ก่อนแล้ว และยังบอกเธออีกว่า เขาและ Tyrells เป็นคนวางแผนฆาตรกรรม Joffrey และช่วยเหลือให้เธอหลบหนีออกมา

จาก Sansa Stark เป็น Alayne Stone
เมื่อ Littlefinger ได้รับคำสั่งจาก Tywin ให้สมรสกับ Lysa Arryn น้องสาวของ Catelyn Stark อดีตภรรยาของ Jon Arryn ซึ่งเธอหลงรัก Littlefinger มาทั้งชีวิต (ถึงขนาดเคยมอมเหล้า Baelish เพื่อหวังจะเคลมเขา) Littlefinger พา Sansa มาอยู่กับเขาด้วยโดยแฝงตัวในนามลูกนอกสมรสของเขา และตั้งชื่อให้ใหม่เป็น Alayne Stone


Sansa เผชิญหน้า Littlefinger

ด้วยความที่ Sansa หน้าตาละม้ายคล้ายมารดาของเธอ (Catelyn Stark) ซึ่ง Baelish หลังรักมาตลอดแต่ไม่มีทางที่จะได้ครอบครองเธอ แต่มาบัดนี้ Sansa ลูกสาววัย 14 ปี ของ Cat มันดึงความรู้สึกพุ่งพล่านจนเลยเถิดเกินที่ห้ามใจไว้ได้ เขาจูบเธอ (ไม่ใช่การจูบแบบเอ็นดู แต่เป็นการจูบด้วยความใคร่)

ความหึงหวง
นั่นทำให้ Lysa ขุ่นเคืองใจคิดจะฆ่า Sansa แต่ Baelish เข้าห้ามไว้และกล่อม Lysa ว่ารักเพียงเธอคนเดียว ทำให้เธอใจเย็นลง เมื่อ Sansa ไปแล้ว เขาก็ผลักเธอตกลงไปจาก Sky Castle

คิดว่าเเดนี่จะเจออุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องการปกครอง คนใกล้ตัวไม่อาจไว้ใจใครได้เลยแถมมังกงก็เริ่มดุร้ายขึ้น

เนื่องจากแดนี่รู้ตัวว่าตัวเองยังขาด ความรู้เรื่องการปกครอง แดนี่เลยตัดสินใจจะฝึกฝนด้านการปกครองที่เมืองค้าทาสเมืองนึงก่อน ซึ่งก็เป็นความจริง การปกครองของแดนี่มีปัญหามาก เธอต้องวุ่นวายรับมือกับปัญหาร้อยแปดที่มีมาทุกวันไม่ได้หยุดหย่อน ทั้งปัญหาเรื่องปากท้อง การต่อต้าน การทะเลาะวิวาท ปัญหาเรื่องโรคระบาด ปัญหาเรื่องการเงิน และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ การเลิกทาสของแดนี่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนบนทวีปตะวันออกอย่าง หน้ามือเป็นหลังมือ เศรษฐกิจของทวีปตะวันออกส่วนหนึ่งผูกพันกับการค้าทาส ทำให้มีผู้มีอำนาจในทวีปตะวันออกจำนวนมากไม่พอใจและหันมาต่อต้านเธอ มีการรวมตัวกันจัดตั้งเป็นกองทัพใหญ่เพื่อมารบกับเธอ (ลองคิดถึงโลกในความเป็นจริง มีที่ไหนบ้างนอกจากประเทศไทย ที่การเลิกทาสทำได้โดยไม่มีอุปสรรค) การต้องแบ่งเวลาไปแก้ปัญหาด้านการปกครองทำให้แดนี่มีเวลาให้กับมังกรน้อยลง มังกรที่เริ่มโตขึ้นก็เริ่มพยศมากขึ้น เวลาที่มีให้มังกรก็น้อย จนตอนหลังแดนี่คุมมังกรแทบไม่อยู่ การจะกลับไปเวสเทอรอสก็ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ เพราะมันต้องใช้เรือเดินทะเลจำนวนมากในการขนคน แดนี่มีผู้ติดตามมากมาย เธอจะขนคนพวกนั้นไปได้ยังไงในเมื่อเธอไม่มีกองเรือเลยสักลำ แล้วถ้าเธอจะกลับเวสเทอรอสไปกับคนสนิทเท่านั้น คนที่ติดตามเธอก็จะแย่แน่ๆ เพราะพวกค้าทาสจะต้องมากวาดต้อนคนพวกนี้กลับไปเป็นทาสอีก เพราะฉะนั้น เรื่องทางแดนี่ไม่ราบเรียบแน่นอน

มังกรที่โตแล้วมันพยศจริงๆครับ แต่ลุงมาตินเขียนวิธีควบคุมมังกรอีกวิธีไว้ในนิยายด้วยแล้ว คือชาววาริเรียนได้สร้างแตรขึ้นมาเพื่อใช้ควบคุมมังกรครับ แตรนี้ผ่านการลงอาคม ผู้เป็นเจ้าของแตรจะสามารถใช้เสียงแตรในการควบคุมมังกรได้ ตอนนี้ แตรอันนี้กำลังเดินทางไปหาแดนี่อยู่ แต่คนที่เอาแตรมาดูจะมีเจตนาไม่ค่อยดีเท่าไหร่( อูรอน เกรจอย ) เพราะหวังจะใช้มังกรของแดนี่เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ต้องมาดูกันว่าตกลงแล้วใครจะได้เป็นเจ้าของแตรอันนี้ในท้ายที่สุด แล้วแตรจะใช้ได้ผลมั้ย จะควบคุมมังกรได้มั้ย มังกรของแดนี่จะโดนขโมยไปรึเปล่า

แตรอันนี้ อูรอน เกรจอย กษัตริย์คนใหม่ของเกาะเหล็กไหลไปได้มาตอนไปค้นซากอาณาจักรวาริเรียโบราณครับ และอูรอนก็มอบต่อให้กับน้องชายคือ วิคเตเรียน เกรจอย แล้วสั่งให้วิคเตเรียนเดินทางไปหาแดนี่ ไปเอาตัวแดนี่กับมังกรกลับมาให้อูรอนให้ได้ แต่วิคเตเรียนมีเป้าหมายของตัวเองที่อยากจะได้ตัวแดนี่กับมังกรไว้กับตัวเอง มากกว่า

Spoil สะใจอีกแล้วววว

สะจายยมว๊ากกกก ครับ ขอบคุณทุกท่าน ขอให้ได้เป็นอัศวินกันทุกคนเน้อ

หนุกหนาน อยากดูซีซั่น 4 ไวๆ แล้ว

SS4 Stannis กำลังจะมาแล้ว


ใช่แล้วครับ ผมกำลังกล่าวถึง Stannis Baratheon ผู้หลงงมงายกับมนต์ดำของ Melisandre ถ้าเราจำได้ใน SS3 Davos ผู้กำลังจะถูกบูชายันต์หลังจากที่เขาได้ปล่อยตัว Grendy (ลูกนอกกฎหมายของ Robert baratheon)



เขาได้มอบจดหมายฉบับหนึ่งให้กับ Stannis ซึ่งมันเป็นจดหมายที่ส่งมาจาก Night’s Watch ถึงบรรดา Lord แห่ง Westeros เพื่อขอกำลังทหารเข้าช่วยปกป้อง The Wall จากการรุกรานครั้งใหญ่ของกองทัพ คนเถื่อนที่นำโดย Mance Rayder



ดูจากสถานการณ์แล้ว ลำพังเพียงกำลังพลของหน่วยพิทักษ์ราตรี ไม่มีทางที่จะต่อกรกับกองทัพมหึมาของกลุ่มคนเถื่อนได้เลย จนกระทั่งกองทัพของ Stannis มาถึง Tha Wall และโชว์ความเหนือชั้นในการรบเหนือกลุ่มคนเถือนนั้น ในที่สุด Mance Rayder และกองทัพคนเถื่อก็ต้องจมจำนน

The Wall ฐานทัพใหม่ของ Stannis
หลังจากกำชัยชนะจากศึกและช่วยเหลือหน่วยพิทักษ์ราตรี ปกป้อง The Wall ไว้ได้ Stannis อยู่ในฐานะพันธมิตรทีมีบุญคุณต่อ Night’s Watch (แต่จริง ๆ แล้วหน่วยพิทักษ์ราตรี คงไม่ค่อยสบายใจกับพันธมิตรใหม่เท่าไหร่หรอก) เขานำตัว Mance Rayder ตัวถูกนำตัวขึ้นบูชายันต์ ต่อเทพเจ้า (ความคิดของเจ๊ Melisandre) และกล่าวกับกลุ่มคนเถื่อนที่ถูกจับเป็นตัวประกันว่าจะอยู่อย่างสุขสบายหากจงรักภักดีต่อเขา และ เทพเจ้าของเขา (Lord of Light)

Stannis VS Jon Snow
Stannis เสนอว่า Jon Snow ควรเป็น King of North หลังจาก Robb Stark ตาย Winterfell ก็ต้องการกษัตริย์คนใหม่ซึ่ง Jon Snow เหมาะสมที่สุดในทุกประการแล้ว แท้จริง Stannis ต้องการให้เหล่ากองทัพชาวเหนือมาเป็นพวกของเขา มันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของ Jon ที่จะปฏิเสธไปก็น้ำลายท่วมปาก แต่ด้วยความแมน เขาตอบ Stannis ว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็น Night’s Watch เท่านั้น

Stannis ต้องการให้ Night’s Watch เลือกผู้นำใหม่แทน Jeor Mormont



(จริง ๆ แล้วไม่ได้หวังดีหรอกเพียงต้องการซื้อตัวหัวหน้าเพื่อให้ลูกน้องภักดีตาม) ด้วยความความฉลาดของ Sam ทำให้เหล่าNight’s Watch เลือก Jon Snow เป็นผู้นำคนใหม่ (Lord Commander) ซึ่งนั้นทำให้ Jon ไม่ต้องเป็น Lord of Winterfell และ Stannis ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก (เสียแผนหมด)

หวังว่าจะใน SS4 เราได้ชมบทบาทความแมน ของ Jon Snow กันเยอะ ๆ นะครับ

ตรงเป็นไม้บรรทัดของจริง วินเทอร์เฟลก็ปล่อยมันเน่าไปเหอะ สมควรละ

ผมว่าคุณ AM'Rome Buster ออกแนวไม่ชอบคนเหนือเท่าไรนะครับ

ไม่ใช่ครับ เพราะผมชอบลุงเน็ด แต่ที่พูดไปเพราะน้อยใจ + ประชดครับ

รักเดียวใจเดียวกับญาติตัวเอง กับน้องตัวเอง 555555 ผมว่าแย่ยิ่งกว่าเจ้าชู้อีกนะ

อย่างที่แกว่า "เราเลือกไม่ได้หรอกว่าจะรักใคร"
เจมี่เคยยกเอาเรื่องนี้มาเถียงแคทลินว่า ถึงเขาจะรักพี่น้องแต่ก็ไม่เคยมีหญิงอื่นอย่างเน็ด

เรื่องความรักนี่พูดลำบากว่าอะไรดีไม่ดี อะไรแย่กว่า อาทิ ผัวมีเมียน้อย หรือผัวเป็นเกย์
เรื่องนี้มีทั้ง ชายรักชาย ชายหลายเมีย พี่น้องรักกันเอง อย่างที่โอเลนน่ากะไทวินขุดเรื่องลูก/หลานมาเทียบกัน ถ้ารักกันเฉยๆมันก็ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่ประเพณีวัฒนธรรมมันไม่ยอมรับ แล้วก็เด็กที่ไม่รู้เรื่องอาจจะพลอยมารับเคราะห์ได้ยีนไม่ดีไปด้วย อย่างพวกลูกหลานของทาร์เกเรียน ที่ครึ่งนึงไม่บ้าก็นิสัยไม่ดี

สาเหตุหลักของการที่ไม่ควรให้คนที่มีสายเลือดเดียวกัน แต่งงานกัน เอากันเอง ก็เพราะเกรงว่าลูกที่ออกมาจะผิดปกติครับ มันเป็นเรื่องของโครโมโซม ซึ่งโอกาสที่ลูกจะออกมาผิดปกตินั้นมีสูง... เช่น พิการ ไม่สมประกอบ มันจะกลายเป็นปัญหากับเด็ก พ่อแม่ก็คงไม่อยากให้ลูกเกิดมาเป็นแบบนั้น เราจึงไม่อยากสร้างภาวะเสี่ยง เรื่องนี้ผมว่าใครๆ ก็รู้นะ ส่วนเป็นเรื่องที่ใครจะรับได้หรือไม่ได้ หรือเป็นขนบธรรมเีนียม ผมว่ามันก็อีกเรื่อง แต่ว่าก็มีเหตุมีผลที่ว่าทำไมถึงไม่ควรให้คนร่วมสายเลือดเอากันเอง หุหุ

ในเรื่องนี้ก็เห็นจะมี เจมี่ และเซอร์ซี่ ทำเพราะรักกันจริง กับอีกคน ก็คือคลาสเตอร์ (คนที่อยู่นอกกำแพง) ที่เอาลูกสาวตัวเองเป็นเมียยกครัว = =" อันนี้ยิ่งรับไม่ได้

รอท่าน Master of The Imp มาพูดถึงตัวละครคนอื่นๆอีก