มารู้จักสิ่งมีชีวิตต่างๆ ใน GOT กัน

กระทู้จากหมวด "พูดคุย Game of Thrones" โพสต์โดย Kurodo, 4 กันยายน 2013.

  1. Kurodo

    Kurodo Grand Maester Staff Member

    ระดับท่านจารย์ใหญ่มาเอง ผมก็ขอนั่งเป็นผู้ฟังที่ดีเลยคับ การพ่นไฟนี่ยังไงคับ ต่อมพ่นไฟอะไรหรือป่าว?

    จริงๆ ใน GOT บอกว่ามังกรกระดูกสีดำเพราะมีเหล็กสูงทำเอางงมากครับ เพราะเหล็กแท้ควรมีสีออกเงินหรือเทา กรณีถูกทิ้งไว้ก็จะเกิดปฏิกิริยากับอากาศ อันนี้ก็จะเกิดเป็นสารประกอบเกิดเป็นหลายสีทั้งเหลือง แดง เขียวเข้ม แต่ไม่หน้าจะมีดำ ถ้าจะเกิดเป็นสีดำจริงๆ คงต้องบอกว่ามาจากคาร์บอนปนเปื้อนครับ ซึ่งก็ไม่แปลกเลยเพราะร่างกายเราประกอบขึ้นจากไฮโดรคาร์บอนซึ่งมีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบสำคัญเลย คาร์บอนก็คือถ่านเพราะงั้นเวลาเผากระดูก/ร่างกายเราจึงกลายเป็นสีดำนั่นเอง
    Sun Snow, Polarbear และ Rheagar Targaryen ถูกใจข้อความนี้
  2. น่าจะเป็นเหล็กแบบสารอาหารมากกว่านะครับ เป็นส่วนประกอบนึงของฮีโมโกลบิน ทำให้เลือดสีเข้มข้น ป้องกันโลหิตจางได้ด้วย
    Sun Snow, Polarbear, Kurodo และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  3. Fangiris

    Fangiris ราชองค์รักษ์

    มังกรในแต่ละประเทศก็จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป เช่น
    พันธุ์ฮังกะรีหางหนาม พันธุ์เวลล์สีเขียว พันธุ์สวีเดนจมูกสั้น พันธุ์จีนลูกไฟ..
    Sun Snow, Rheagar Targaryen และ Hodor is coming ถูกใจข้อความนี้
  4. Hodor is coming

    Hodor is coming ราชองค์รักษ์

    กระผมไปเปิด สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ โดย นิว สคามันเดอร์ แป๊บขอรับ
    Master of Sellsword, Fangiris, Rheagar Targaryen และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  5. ชาซารี

    ชาซารี ราชองค์รักษ์


    ตามชาลี วีสลีย์ มาด้วยนะ:)
    Sun Snow, Polarbear, Hodor is coming และอีก 2 คน ถูกใจข้อความนี้
  6. marizelee

    marizelee อัศวินไร้นาย

    กระทู้นี้สนุกมากครับ ได้ฟัง อาจารย์หลายๆท่าน แสดงความคิดเห็นแล้ว อยากให้มีคาบเรียน เรื่อง รายละเอียดเรื่องอื่นๆ ในSOIAF อีกครับ
    Master of Sellsword ถูกใจข้อความนี้
  7. Midnights

    Midnights พลเดินเท้า

    มังกรจีนดูเป็นเทพไปเลยเแหะ แบบดราก้อนบอล <3<3
    Master of Sellsword ถูกใจข้อความนี้
  8. Levantine Storyteller

    Levantine Storyteller Moderator Staff Member

    เหล็กในธรรมชาติอยู่ในรูปสารประกอบเสมอ ถ้ากระดูกมังกรมีเหล็กเป็นส่วนประกอบมาก ซึ่งน่าจะอยู่ในไขกระดูกหรือเนื้อเยื่อรอบๆ การเปลี่ยนเป็นสีดำน่าจะเกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงซึ่งปลดปล่อยฮีโมโกลบินออกมา จากนั้นจึงทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) ที่ผลิตโดยแบคทีเรียที่เข้าไปย่อยสลายไขกระดูกและเนื้อเยื่อโดยมีการย่อยสลายซัลเฟตด้วยซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการหายใจโดยไม่ใช้อากาศ การย่อยสลายนี้ทำให้เกิดไอร์ออน ซัลไฟด์ (Iron Sulfide) ซึ่งมีสีดำตกค้างในเนื้อเยื่อ

    ไอร์ออน(II) ออกไซด์มีสีดำ แต่มันไม่น่าจะเกิดในร่างกายสิ่งมีชีวิตได้ เพราะเหล็กมักกลายเป็นไอออน Fe2+ หรือ Fe3+ เมื่อกลายเป็นสารประกอบอื่นๆที่เกิดในร่างกายเช่น ฮีโมโกลบิน,ไมโอโกลบิน(โปรตีนสะสมออกซิเจนในกล้ามเนื้อ), หรือเฟอร์ริทิน(โปรตีนที่เซลล์ใช้เก็บและปล่อยเหล็ก) เลือดโดนอากาศนานๆก็ไม่น่าใช่เพราะถึงจะเข้มแค่ไหนก็น่าจะออกสีน้ำตาลแดงมากกว่า

    ทั้งหมดนี้เป็นแค่การคาดเดาแนว Sci-Fi โดยสมมติว่ามังกรมีอยู่จริงและกระดูกไม่ดำตอนที่มีชีวิตด้วยนะครับ
    ไม่เกี่ยวกับ GoT เลยครับ เป็นภาพประกอบชื่อสมาชิกของผม นักเล่านิทานกำลังเป่าควันตะเกียงเป็นรูปร่าง

    รอสักพักครับ ขอเตรียมตัวก่อน
    Sun Snow, Polarbear, Stormwind และอีก 6 คน ถูกใจข้อความนี้
  9. Kurodo

    Kurodo Grand Maester Staff Member

    มาเพิ่มเติมหน้าที่ของกระดูกที่เกี่ยวข้องนิดนะครับ
    ในกระดูกมีไขกระดูกที่ผลิตเม็ดเล็ดทั้งแดงและขาว ร่วมทั้งยังสะสมแร่ธาตุที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายกรณีที่มีมากเกินไป การสะสมนี่เองที่เป็นที่มาของสีคับ
    คำตอบของอาจารย์ใหญ่ทำเอาผมฟินเลย 555
    Sun Snow, Hodor is coming และ Rheagar Targaryen ถูกใจข้อความนี้
  10. จริงเหรอครับ ผมนึกว่าสารพิษจะไปตกค้างที่ตับซะอีก
    Rheagar Targaryen ถูกใจข้อความนี้
  11. Kurodo

    Kurodo Grand Maester Staff Member

    ใช่คับ สารพิษส่วนให้จะสะสมในตับ
    แต่ถ้ากรณีที่แร่ธาตุจะไปกระดูก ผมพูดผิดไปหน่อยแร่ธาตุจะมากหรือน้อยก็จะไปสะสมที่กระดูกได้ครับ อย่างของมนุษย์มักจะมีแค่แคลเซียมกับฟอสฟอรัสเป็นหลัก แต่ก็อาจมีสังกะสี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ทองแดงปนอยู่บ้างเล็กน้อยคับ
    Sun Snow, plakinmek และ Rheagar Targaryen ถูกใจข้อความนี้
  12. Levantine Storyteller

    Levantine Storyteller Moderator Staff Member

    หลักการเดียวกับการสลายตัวของซากสิ่งมีชีวิต การเกิดเนื้อตาย และการกลายเป็นแร่ธาตุของฟอสซิลครับ ในกรณีหลังคือ ฟอสซิลเกิดจากการเข้าแทนที่อินทรียสารโดยแร่ธาตุ (Pseudomorph) โดยไอร์ออนซัลไฟด์ที่เกิดในสภาวะการเน่าเปื่อย เช่นหนองบึงน้ำนิ่งที่มีซากพืชและสัตว์ที่กำลังเน่าเปื่อย เมื่อแบคทีเรียใช้ออกซิเจนจนหมด ค่า pH ในหนองบึงจะเพิ่มและมีแอมโมเนียเกิดขึ้น ส่วนประกอบซัลเฟตในหนองบึง(น่าจะรวมส่วนที่อยู่ในสิ่งมีชีวิตด้วย กำมะถันเป็นสารประกอบร่วมของอินทรียสารเช่นโปรตีน เอนไซม์ กรดอินทรีย์ โปรตีนโลหะ และอนินทรียสารจำนวนมาก) ถูกรีดิวซ์ (ปฏิกิริยารีดักชั่น) โดยแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดไอร์ออนซัลไฟด์ซึ่งตกผลึกภายในและรอบๆกระดูกหรือไม้ ไอร์ออนซัลไฟด์ในฟอสซิลคือมาร์คาไซต์ (Marcasite) กับไพไรต์ (Pyrite) ซึ่งมีสูตรเคมี FeS2 เหมือนกัน และมีสีออกดำเมื่อถูกบรรยากาศภายนอกนานๆ ทั้งสองอย่างต่างกันตรงโครงสร้างผลึกและเสถียรภาพ มาร์คาไซต์เสถียรน้อยกว่า มันทำปฏิกิริยากับน้ำและออกซิเจนในอากาศ กำมะถันจะออกซิไดซ์และรวมตัวกับน้ำกลายเป็นกรดซัลฟิวริกซึงไปกัดกร่อนแร่ธาตุซัลเฟตอื่นๆ ไพไรต์ทำปฏิกริยากับน้ำและออกซิเจนในอากาศแล้วสลายตัวเป็นไอร์ออนออกไซด์กับซัลเฟต กระบวนการนี้จะเกิดเร็วขึ้นถ้ามีแบคทีเรีย Acidithiobacillus ซึ่งออกซิไดซ์เฟอร์รัสไอร์ออน (Fe2+) เป็นเฟอร์ริกไอร์ออน (Fe3+) ด้วยออกซิเจน เฟอร์ริกไอร์ออนจะกัดกร่อนไพไรต์เพื่อสร้างเฟอร์รัสไอร์ออนและซัลเฟตเพิ่ม ซึ่งจะถูกแบคทีเรียนำไปออกซิไดซ์เพื่อเผาผลาญเป็นอาหาร กระบวนการนี้จะเกิดไปเรื่อยจนไพไรต์หมด ซัลเฟตรวมตัวกับน้ำกลายเป็นกรดซัลฟิวริกซึ่งกัดกร่อนแร่ธาตุรอบๆอีก กระบวนการทั้งหมดนี้เรียกว่า Pyrite Decay ซึ่งทำลายฟอสซิล ฟอสซิลจึงต้องถูกทำความสะอาดเพื่อลดไพไรต์และมาร์คาไซต์ซึ่งทำได้ยากเพราะเป็นผลึกแข็ง เก็บในที่แห้ง ต้องฉีดยาฆ่าเชื้อเป็นพักๆ


    เหมือนเดิมครับ เป็นการคาดเดาเท่านั้น ในกรณีของกระดูกมังกร ไอร์ออนซัลไฟด์ที่เกิดน่าจะเป็นประเภทที่ทำให้เกิดสีดำซึ่งน่าจะเป็นไอร์ออน(II)ซัลไฟด์ หรือไม่ก็อาจจะเป็นสารประกอบเหล็กอย่างอื่นที่มีสีดำซึ่งเกิดด้วยวิธีอื่น และมีอะไรบางอย่างที่ทำให้กระดูกยังแข็งแกร่งและน้ำหนักเบาทั้งที่มีเหล็กมากซึ่งตามปกติสารประกอบของเหล็กมีน้ำหนักมากกว่าเหล็ก (น่าจะเป็นเวทย์มนตร์หรือไม่ก็การปล่อยวางความไมเชื่อเนื่องจากเป็นนิยายแฟนตาซี) เพราะถ้ากระดูกมังกรเป็นอย่างนี้จริงๆก็ไม่มีทางเป็นสุดยอดวัตถุดิบสำหรับสร้างอาวุธได้เพราะกระดูกจะเปราะบางแต่หนักมาก

    กลายเป็นกระทู้เรื่องชีวเคมีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แฮะ:D สงสัยหลักสูตรนี้ต้องใช้ความรู้แขนงนี้ด้วย
    Sun Snow, Polarbear, plakinmek และอีก 2 คน ถูกใจข้อความนี้
  13. Kurodo

    Kurodo Grand Maester Staff Member

    คับ ถ้าเป็นเหล็กสองซัลไฟด์ได้สีดำแน่ๆๆ แต่การเกิดได้ปกติอย่างที่ท่านจารย์ใหญ่กล่าว ถ้าเกิดนอกร่างกายผมไม่สงสัยเลย แต่มันดันเกิดในร่างกายจะบอกว่าหลังตายแล้วชื้นมันก็จะเว่อไปหน่อย แต่ผมก็ยังฟินต่อกับ biochem วันนี้คับ ^^

    จะว่าไปผมยังไม่เคยเห็นฟอสซิลกระดูกสีดำเลย
    Sun Snow, Hodor is coming และ Rheagar Targaryen ถูกใจข้อความนี้
  14. Rheagar Targaryen

    Rheagar Targaryen ราชองค์รักษ์

    อ้อมีปฏิกิริยาในเซลเม็ดเลือดกะเซลไขกระดูกเยอะขนาดนี้เลยคายพลังงานเยอะจนลมหายใจร้อนสินะคะ
    (เจออาจารย์หลายรายแล้วกดดันไม่กล้าทำน้ำทะเลเลอะห้องเรียน)
    ชาซารี และ Hodor is coming ถูกใจข้อความนี้
  15. Levantine Storyteller

    Levantine Storyteller Moderator Staff Member

    ถ้าเป็นของที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ฟอสซิลพวกนั้นถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ตามปกติร่างกายสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งแวดล้อมไ่ม่ได้มีเหล็กมากมายขนาดทำให้กระดูกเปลี่ยนสีจนดำมืดอย่างในนิยายหรอกครับ เต็มที่ก็เป็นสีคล้ำ
    นั่นเป็นนิทานในคราวต่อไปครับ ส่วนนิทานเรื่องชีวเคมีมังกรก็จบเพียงเท่านี้ ;) (เพราะรู้สึกจะออกทะเลจนไม่เห็นฝั่งมาหลายคืนแล้ว)
    Sun Snow, Hodor is coming, Rheagar Targaryen และอีก 1 คน ถูกใจข้อความนี้
  16. เห็นสำนวนนี้รู้เลยว่าต้องเป็นนักอ่านแน่นอน :D
    Hodor is coming ถูกใจข้อความนี้
  17. ชาซารี

    ชาซารี ราชองค์รักษ์

    แล้วปฏิกิริยาในร่างกายมังกรมันทำให้เกิดไฟขึ้นมาได้ยังไงอ่ะ มีอะไรเป็นประกายไฟ มีอะไรเป็นเชื้อเพลิง ออกซิเจนคงมีอยู่แล้ว
    เอ่อขอแบบเข้าใจง่ายขึ้นนี้ดนึงได้ไหม เห็นตัวหนังสือเป็นพืดๆแล้วตาลายมาก โดยเฉพาะกับเรื่องวิชาการ
    Sun Snow ถูกใจข้อความนี้
  18. Levantine Storyteller

    Levantine Storyteller Moderator Staff Member

    จากหนึ่งพันหนึ่งราตรีโดยราชินีเชเฮราซาดครับ
    พอดีเลยครับ ผมเจอส่วนที่ผิด กำัลังจะแก้พอดี หนนี้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นด้วยแต่เยอะกว่าเดิม

    ตอนแรกผมเข้าใจว่าการที่กระดูกดำเพราะมีเหล็กเยอะหมายถึงมีเหล็กเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักมากจนแทบเรียกว่ากระดูกเหล็กได้ ผมเลยเข้าใจว่ามันทำให้เกิดสารประกอบพวกไอร์ออนซัลไฟด์เยอะมากจึงควรมีน้ำหนักมากตาม แต่มาคิดดูอีกที ถ้ามันหนักมากมันก็จะขัดแย้งกับรายละเอียดในนิยาย และมังกรจะบินได้ยังไงถ้ากระดูกหนัก แล้วก็ปริมาณกำมะถันที่อยู่ในรูปซัลเฟตในร่างกายจะต้องเยอะมากจนไม่น่าเป็นไปได้ (ร่างกายคนปกติมีอยู่ร้อยกรัมเศษๆ) ถึงจะเป็นการสมมติว่ามังกรใน GoT มีจริงก็ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงด้วย เป็นเพราะผมเอาไปเปรียบเทียบกับการเกิดฟอสซิลแล้วก็ลืมไปว่าซัลเฟตที่เข้าไปอยู่ในฟอสซิลมาจากภายนอกเยอะมาก การเดาจึงต้องถือว่ากระดูกมีเหล็กเยอะพอจะทำให้ดำแต่ไม่ทำให้กระดูกหนักด้วย ผมแยกเป็นสองอย่างคือ

    1.สีดำเกิดจากการย่อยสลาย เหล็กอาจอยู่ในไขกระดูกและเนื้อเยื่อรอบๆในรูปโปรตีนโลหะหรือเป็นส่วนประกอบในส่วนกระดูกด้วย กระดูกไม่ดำตั้งแต่แรก
    เมื่อสิ่งมีชีวิตตาย ส่วนที่เป็นสารประกอบซัลเฟตในร่างกายจะถูกแบคทีเรียนำไปใช้ในการย่อยสลายอินทรียสารแล้วได้ผลผลิตเป็นไฮโดรเจนซัลไฟด์หรือแก๊ซไข่เน่าเมื่อรวมตัวกับไอออนของโลหะก็จะกลายเป็นซัลไฟด์ของโลหะ ถ้าเป็นเหล็กก็ได้ไอร์ออน(II)ซัลไฟด์หรือเฟอร์รัสซัลไฟด์ซึ่งมีสีดำและไม่ละลายน้ำ เป็นสิ่งที่ทำให้ซากที่กำลังเน่ามีสีดำ เนื้อตาย และน้ำเสียมีสีดำก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน ถ้าสีถึงกับดำก็แสดงว่ามีเฟอร์รัสซัลไฟด์เยอะ ถ้ามันกระจายอยู่ในกระดูกเป็นจำนวนมากจนทำให้เป็นสีดำก็น่าจะส่งผลร้ายต่อโครงสร้าง เพราะสารประกอบจำพวกไอร์ออนซัลไฟด์ไม่เสถียร ทำปฏิกิริยากับความชื้นและอากาศแล้วทำให้เกิดออกไซด์ของซัลเฟอร์ซึ่งจะกลายเป็นสารกัดกร่อนและไฮโดรเจนซัลไฟด์อีก และเป็นไปได้มากว่าแบคทีเรียยังย่อยสลายอยู่ กระดูกจะผุกร่อนไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้ก็เอามาใช้ทำอาวุธไม่ได้แน่ๆ

    2.กระดูกเป็นสีดำตั้งแต่แรกแล้ว เหล็กเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างกระดูกด้วย
    ส่วนนี้ถือว่าการที่มีเหล็กมากแล้วทำให้เป็นสีดำก็เหมือนกับกรณีหินอัคนีสีดำ (Mafic) หรือทรายเหล็ก (Ironsand) ซึ่งมีส่วนประกอบที่เป็นเหล็กสูงซึ่งอยู่ในรูปไอร์ออน(II,III)ออกไซด์ (หมายถึงมีเหล็กประจุ 2+ และ 3+ อยู่ด้วยกัน) เรียกอีกอย่างว่าเฟอร์ริค/เฟอร์รัสออกไซด์ หรือแมกนีไทต์ ซึ่งมีในสิ่งมีชีวิตที่สัมผัสสนามแม่เหล็กได้เช่นแบคทีเรีย Magnetotactic ที่ภายในอวัยวะเซลล์ และนกพิราบที่ในจะงอยปาก เป็นอนุภาคนาโนคริสตัล และเป็นส่วนลิ้นครูดอาหาร (radula) ของสัตว์น้ำประเภทมอลลัสก์ (หอย, หมึก) ชนิดไคตัน (Chiton) หรือลิ่นทะเล ออกไซด์เหล็กอีกอย่างที่มีสีดำคือไอร์ออน(II)ออกไซด์หรือเฟอร์รัสออกไซด์ซึ่งไม่เกิดในสิ่งมีชีวิตปกติและไม่เสถียรที่อุณหภูมิห้องและไวต่ออากาศ อย่างหลังเลยไม่น่าใช่

    กระดูกเป็นวัสดุเนื้อผสม (Composite) ตามปกติก็คือแร่ธาตุที่มีแคลเซียมและฟอสเฟตชื่อไฮดรอกซีลาพาไทต์(Hydroxylapatite)กระจายอยู่ในคอลลาเจนที่เป็นเนื้อพื้น ถ้าเป็นกระดูกมังกร โครงสร้างที่เป็นไปได้คือเหล็กในกระดูกอยู่ในรูปแบบแมกนีไทต์กระจายอยู่ในคอลลาเจนด้วย ส่วนที่เป็นแมกนีไทต์ให้ความแข็ง ส่วนที่เป็นแร่ธาตุก็ให้ความแข็ง ส่วนที่เป็นคอลลาเจนให้ความเหนียวยืดหยุ่น ทั้งหมดส่งเสริมกันทำให้กระดูกทั้งแข็งแกร่ง ยืดหนุ่น และมีน้ำหนักเบากว่าโลหะ จึงเข้ากับคุณสมบัติที่นิยายบอกไว้

    แต่ถ้าสามารถเอาไปตีเป็นเกราะหรืออาวุธได้เหมือนโลหะก็คงต้องเป็นวัสดุนาโนจำพวกคาร์บอนนาโนทิวบ์ (เพราะสามารถเกิดในธรรมชาติได้จึงเป็นไปได้มากกว่า) ที่มีสารประกอบเหล็กที่อยู่ในรูปคาร์ไบด์ (สิ่งมีชีวิตปกติสร้างไม่ได้) หรือออกไซด์อยู่ภายใน จึงได้ทั้งความแข็งแกร่ง เหนียวยืดหยุ่น และน้ำหนักที่เบามาก ซึ่งมังกรต้องมีความสามารถที่จะสร้างมันขึ้นมาในโครงสร้างกระดูก เหมือนสิ่งมีชีวิตในหนังเรื่อง Avatar ที่มีกระดูกทำจากเส้นใยคาร์บอน

    เหมือนเดิมครับ คาดเดาล้วนๆ หวังว่าคงอ่านสนุกไม่ปวดหัวนะครับ
    Sun Snow, Polarbear, Hodor_Wolf และอีก 7 คน ถูกใจข้อความนี้
  19. ชาซารี

    ชาซารี ราชองค์รักษ์

    ทำไมมังกรมีกระดูกดำ อธิบายได้ด้วย Levantine Storyteller Theory นี่เอง
    Levantine Storyteller ถูกใจข้อความนี้
  20. Levantine Storyteller

    Levantine Storyteller Moderator Staff Member

    ต้อง supposition ครับ เพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ ^^ (จะพิสูจน์ยังไงยังไม่่รู้เลย)
  21. Rheagar Targaryen

    Rheagar Targaryen ราชองค์รักษ์

    โอ้โห มีตั้ง Hypothesis ด้วย ถ้ากระดูกมังกรเป็นคาร์บอนนาโนทิวบ์ งั้นที่ตระกูลทาร์แกเรียนสามารถฟักมังกรได้จริงก็แค่เพราะว่า คนตระกูลนี้แค่ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาได้เหมาะสมแค่นั้นสินะคะเนี่ย. ปัญหาอยู่ที่การพิสูจน์ งั้นคงต้องให้แดนนี่หรือแบรนท์ลองบดกระดูกมังกรทาที่ลูกบอลดู ถ้าเด้งได้สูงกว่าลูกบอลปกติ 7เท่าก็ถือว่าผ่าน
    เอ๊ะ ว่าแต่ว่าจะหาลูกบอลกันได้มั้ยหละเนี่ย
    (กระทู้ออกนอกโลกขนาดนี้ใครจะยอมพลาด555)
  22. Levantine Storyteller

    Levantine Storyteller Moderator Staff Member

    นิยายยังไม่บอกว่ามันเอาไปทำอะไรได้บ้างนอกจากคันธนู ซึ่งน่าจะผ่่านกระบวนการขึ้นรูป แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียด ถ้าเอาไปตีขึ้นรูปเหมือนโลหะได้เหมือนกระดูกมังกรในเกมแฟนตาซีอืืนๆเช่น Dragon Age กับ Skyrim ก็คงต้องเอาเข้าเตาไฟ ถ้าเป็นกระดูกปกติก็คงไหม้หมด ผมก็เลยเดาว่าต้องเป็นวัสดุแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ทนความเค้นกับความเครียดสูง ทนความร้อนสูง นำความร้อนได้ดีมาก (ตามแนวยาวของโครงสร้างโมเลกุล ตามแนวขวางเป็นฉนวนชั้นยอด) และเกิดในธรรมชาติได้ ซึ่งน่าจะเป็นคาร์บอนนาโนทิวบ์ ข้างล่างเป็นข่าวเรื่องการค้นพบแบคทีเรียที่สร้างคาร์บอนนาโนทิวบ์ได้ (ถ้าไ่ม่เคยดู Avatar มา ผมก็คงไม่นึกถึง)
    http://www.sciencedaily.com/releases/2007/12/071207150717.htm

    เรื่องลูกบอลเด้งนี่คุณ Rheagar พูดถึง ผมว่าน่าจะหมายถึงสุดยอดวัสดุยืดหยุ่นที่เรียกว่า Zectron นะ ลูกบอลที่สร้างจากวัสดุนี้เด้งข้ามตึกสูงสามชั้นได้ถ้าถูกขว้างลงที่พื้นด้วยแรงคนปกติ ถ้าเป็นคาร์บอนนาโนทิวบ์ก็คงเป็น Carbon nanotube spring ที่จุพลังงานได้มากกว่าสปริงเหล็กกล้าราวๆ 2,500 เท่าและมีความแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และแข็งเกร็งมหาศาล สถาบันวิจัยหลายแห่งกำลังหาทางสร้างเครื่องจักรระดับนาโนเพื่อเอาพลังงานที่เก็บไว้ในสปริงคาร์บอนนาโนทิวบ์มาใช้

    ส่วนนี่ เรื่องลิ่นทะเล สิ่งมีชีวิตที่มีอวัยวะครูดอาหารทำด้วยเหล็กในรูปแม็กนีไทต์
    http://www.asnailsodyssey.com/LEARNABOUT/CHITON/chitFeed.php

    ชีวเคมีก็ไปมาแล้ว วัสดุศาสตร์ก็ไปมาแล้ว คราวหน้าเราจะพากระทู้ออกท่องทะเลที่ไหนดีครับ?
    Sun Snow และ Kurodo ถูกใจข้อความนี้
  23. ชาซารี

    ชาซารี ราชองค์รักษ์

    ทำไมมังกรถึงพ่นไฟได้ ฟิสิกส์ เคมี หรือ ชีวะ ดีเนี่ย
  24. Levantine Storyteller

    Levantine Storyteller Moderator Staff Member

    ถูกต้อง ต้องใช้เชื้อเพลิง สิ่งสันดาป และออกซิเจน (กับจินตนาการสุดบรรเจิด) แต่นั่นเป็นนิทานในคราวต่อไป ;)
  25. AM'Rome Buster

    AM'Rome Buster ราชองค์รักษ์

    ไม่มีนิทานในตอนต่อไป ก็คงไม่ใช่เรื่องดี

Share This Page