บทความนี้เป็นบทความที่โปรดิวเซอร์ David Benioff และ D.B. Weiss เขียนถึงแฟนๆ เนื่องในโอกาสเปิดตัวเวบไซต์ของพวกเขา Making Game of Thrones: เมื่อเดือน ก.พ. ปี 2006 หนังสือนิยายชุด 'A Song of Ice and Fire' ได้ถูกส่งมาทางวัสดุถึงหน้าบ้านของเรา ต้องขอบคุณเอเย่นของ George จริงๆ ในช่วงเวลานั้น มีสตูดิโอภาพยนตร์หลายเจ้าที่เริ่มสนใจนิยายเรื่องนี้ทางทีม GRRM ของเราก็กำลังมองหานักเขียนบทเพิ่มเติมอยู่ ยังไงก็เถอะ 4,100 หน้า มันเป็นวัสดุที่ชิ้นใหญ่จริงๆ! แฟนๆ นิยาย ASOIAF (ฝรั่งใช้ย่อชื่อนิยาย A Song of Ice and Fire กัน) น่าจะเข้าใจดีว่าหนังสือชุดนี้มันอันตรายขนาดไหน -- มันติดเสียยิ่งกว่าติด จนลืมกินลืมนอนลืมงานไปทั้งหมด การได้อ่านนิยายของ George มันทำให้ผมรู้สึกค้นพบเหตุผลลึกๆ ในใจ ที่ทำให้ผมตัดสินใจทำงานนี้ (*Devid เป็นนักเขียนบทอาชีพ) ยิ่งพวกเราใช้เวลาในฐานะนักเขียนอาชีพนานขึ้นเท่าไหร่ การจะปลดปล่อยจิตใจและจินตนาการให้ล่องลอยเข้าไป อยู่ในโลกสมมุติก็ยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น เพราะเรารู้เบื้องหลังวิธีการและขั้นตอนจนหมดแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงก็รบกวนสมาธิอยู่ตลอด ไหนจะครอบครัว การงาน โทรศัพท์ แต่เมื่อได้อ่านเกี่ยวกับตระกูล สตาร์ค แลนนิสเตอร์ และทาเกเรียน มันดึงเอาความรู้สึกรักที่เรียบง่ายในนิทานของเรากลับมาใหม่ เป็นความรู้สึกที่เราไม่ได้รับรู้มานานหลายปีเหลือเกิน สมัยเด็ก พวกเราชอบนิยายแฟนตาซีและวิทยาศาสตร์มาก หามาอ่านกันจนหมดห้องสมุด สำหรับมือสมัครเล่น การได้อ่าน Lord of the Ring มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของความทุ่มเทที่แท้จริงของเรา เราอ่านผลงานของนักเขียนมากมาย ขอให้มีเวทมนตร์เถอะ เราอ่านหมด เรายังเป็น Dungeon Master ที่เฮี้ยบมาก ทอยเต๋าได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นไม่มีทอยใหม่ เสียใจด้วย ... แต่สุดท้ายเราก็เจอ Dungeon Master สุดโหดที่เราเทียบไม่ติดเข้าจนได้ กลับไปที่ กุมภาพันธ์ 2006 ใหม่ พออ่านหนังสือเล่นแรก A Game of Thrones จบ มันชัดเจนมากว่าหนังสือเรื่องนี้ ไม่ควรจะถูกทำเป็นภาพยนตร์ฉายในโรงหนังอย่างยิ่ง A Game of Thrones มีเนื้อเรื่องที่พัวพันอีรุงตุงนัง เต็มไปด้วยแรงขับเคลื่อนต่างๆ มากมาย ผสมรวมกันออกมาอย่างสมบูรณ์แบบและลงตัว การจะอัดทุกอย่างใส่ในเวลา 3 ชั่วโมงถือว่าเป็นการก่อวินาศกรรมที่เลวร้ายมาก นิยายของ George เรื่องนี้มีเบื้องหลังตัวละครที่ลึกมาก และมีดราม่าความขัดแย้งในระดับมโหราฬ และมันไม่ใช่เนื้อเรื่องสำหรับเด็ก ที่ไม่มีเลือด ไม่มีเรื่องเพศ เป็นความดี VS ความเลวเรียบๆ ง่ายๆ ไม่ใช่ มันเต็มไปด้วยเลือด เต็มไปด้วยกามารมณ์ และตัวละครที่เป็นคนดีจริงๆ นั้นมีอยู่น้อยเหลือเกิน (โอเค ยกเว้น เน็ด สตาร์ค และคนอื่นอีกสองสามคน) เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องสำหรับเด็กจริงๆ และไม่สามารถทำ trailer ได้ภายใน 2 นาทีอย่างแน่นอน เรื่องนี้จะต้องเป็นซีรีย์ HBO คือการตัดสินใจของพวกเรา... และที่น่าอัศจรรย์ที่สุด HBO ก็เห็นด้วย!! ดังนั้น หลังจากเขียนบทออกมาหลายร้อยหน้า และผ่านการประชุมกว่าพันครั้ง เราก็อยู่ที่นี่แล้ว ในเมือง Belfast (โลเกชั่นถ่ายทำ Game of Thrones) และอีกไม่นานเราจะไปถ่ายทำที่ Malta ด้วยทีมที่วิเศษที่สุดเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาได้ จะบอกว่า เรากำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตอาจจะฟังดูซ้ำซาก แต่เรากำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต --เมื่อไม่กี่วันก่อนเราได้ดูฉากที่ ซันซา พบกับเซอร์อิลินในโรงแรมใกล้ๆ Crossroad อาทิตย์หน้าเราจะอยู่กับ จอนสโนว์และแซมเวลบนยอดกำแพง และเมื่อคืนนี้เราได้ดื่มเบียร์กับ ไทเรียน แลนนิสเตอร์ ทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้น และเครดิตส่วนใหญ่ต้องมอบให้กับความทุ่มเท ที่แฟนๆ หนังสือของ George มีให้กับนิยายเรื่องนี้ ทุกคนเต็มไปด้วยความกระตือรือล้นตั้งแต่ก่อนเริ่มคัดเลือกผู้แสดงคนแรกเสียอีก แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่จะอยู่บนจอภาพแค่ไม่กี่วินาที เช่นด้ามมีด ด้ามดาบ ทุกคนก็ยังเอามาถกเถียงกันอย่างตื่นเต้น มันจะมีใครสังเกตุเห็นมั้ย ต้องมีอยู่แล้ว โดยพวกคุณ แฟนๆ ที่รักเรื่องนี้เหมือนกับเรายังไงล่ะ ความรู้สึกนี้ทำให้เรายิ่งท่มเทกายใจให้กับการถ่ายทำ เรายังเหลืองานต้องทำอีกมาก ก่อนที่เราจะสามารถพักผ่อนและหลับตานอนในคืนนี้ แต่สำหรับตอนนี้ เราเพียงอย่างบอกว่า ขอบคุณ HBO มาก ที่ให้โอกาสนี้กับเรา และขอบคุณพวกคุณทุกๆ คนที่อ่านจดหมายฉบับนี้ และยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ขอบคุณ George ที่สร้างสรรค์โลกนี้ขึ้นมาให้เรา เรารักที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน และหวังว่าจะได้ทำมันต่อไปในปีต่อๆ ไปด้วย - David Benioff and D.B. Weiss
