1. Drowned God นี่ถือเป็นศาสนาเดียวกับ Old God ไหม? มันเป็นศาสนาที่ The First Men ในเกาะไอรอนสร้างขึ้นเอง ไม่เกี่ยวกับ Children of the forest ใช่ไหม? 2. ทำไมตระกูลใหญ่จาก age of hero จำนวนมาก อยู่ๆก็กลายเป็นพวกแอนดัล เช่นแลนนิสเตอร์ หรือ การ์เด็นเนอร์ หรือดูเรนดอน คือถ้าพวกแอนดัลเป็นผู้รุกรานที่ได้รับชัยชนะ และมีวัฒนธรรมเจริญกว่าหลายด้าน น่าจะเป็นฝ่ายกลืน The First Men ทำไมถึงยอมลืมตระกูลเก่าของตัวเอง แล้วเข้าไปเป็นสมาชิกของพวกตระกูล The First Men ครับ ขอบคุณมากๆ
1. ไม่เกี่ยวกันครับ Old God จะเจาะจงถึงเทพแมกไม้ของเด็กแห่งพงไพร ส่วนที่มา เข้าใจว่ามาจากปฐมบุรุษนี่แหละครับ เหมือนเคยอ่านเจอเรื่องเล่าว่ามีที่มายังไงแต่ผมนึกไม่ออกซะแล้ว 2. คำถามนี้น่าสนใจครับ... ผมไม่เคยเอะใจเสียด้วยสิว่าตระกูลไหนเป็นเผ่าอะไร... การ์เด็นเนอร์อยู่มาตั้งแต่ยุคปฐมบุรุษ ทำไมแอนดัลเข้ายึดครองแล้วถึงยังอยู่ นั่นสิครับ
เล่าประวัติข้อหนึ่งเพิ่มนิดนึงก็แล้วกันนะครับ 1. Drowned God (เทพผู้อยู่ใต้ฟองคลื่น) เป็นเทพดั้งเดิมของชาวบุรุษเหล็ก (Ironborn) ตั้งแต่สมัยปฐมบุรุษ มีเทพที่เป็นศัตรูกันคือเทพแห่งพายุ (Storm God) ซึ่งไม่เกี่ยวกับฝั่ง Stormlands เลย เรื่องเล่าโด่งดังเกี่ยวกับ Drowned God นี่เป็นเรื่องของราชันย์เทา (Grey King) บุรุษในยุคตำนานที่ได้รับการช่วยเหลือจากเทพต่อสู้กับ Nagga (มังกรน้ำ, นาค?) จนชนะและได้เอากระดูกมาสร้างวัง ได้แต่งงานกับเงือก และทำสงครามกับเทพพายุ 2. ตรงส่วนนี้ผมเคยสงสัยและลองไปค้นมาแล้วครับ เรื่องไปตามอาณาจักรแล้วกันนะครับ Kingdom of Vale and Sky ตระกูลนี้ค่อนข้างบอกไว้ชัดเจนว่า อัศวินนภา (อัศวินปักษา, Winged Knight) หรืออาร์ทิส อาร์รินตระกูลชั้นผู้นำของฝั่งแอนดัลสังหารราชันย์กริฟฟิน ราชันย์แห่งขุนเขาองค์สุดท้ายลงและตั้งอาณาจักรของตนเอง Kingdom of the Isles and Rivers นี่ก็ระบุไว้ว่า ตระกูล Greyiron ถูกสังหารลงและถูกปกครองโดย ตระกูล Hoare ของแอนดัล แทน ส่วนตระกูล Greyjoy ถ้าจำไม่ผิดเป็นหนึ่งในตระกูลเก่าของปฐมบุรุษที่แต่งงานกับชาวแอนดัลเพื่อไม่ให้ถูกกลืนตระกูลไป ที่เหลือเด๋วมาต่อนะครับ ง่วงแล้ว
Kingdom of the Isles and Rivers แบ่งเป็นสองดินแดนได้พูดถึง Iron Island ไปแล้ว มาพูดต่อในส่วนของ Riverlands ในสมัยปฐมบุรุษปกครองโดยราชันย์โคลน (Mudd Kings) ในช่วงการรุกรานของแอนดัลนั้น ราชา ทิสไทเฟอร์ที่ 4 (Tristifer IV) ได้ต่อต้านการรุกรานและชนะศึกถึง 99 ครั้ง แต่ก็แพ้ลงในครั้งที่ 100 ลูกชายขึ้นเป็นทิสไทเฟอร์ที่ 5 ไม่เก่งกาจเท่าพ่อจึงพ่ายแพ้ไป ตระกูลทัลลี่นี่ก็มีเชื้อสายของปฐมบุรุษครับ แต่ไม่เคยเป็นกษัตริย์ ช่วงที่ตระกูล Mudd แพ้ ตระกูลทัลลี่ก็สมรสกับชาวแอนดัลเช่นตระกูลอื่นๆ Dorne ในสมัยปฐมบุรุษดอร์นก็ประกอบไปด้วยหลายอาณาจักร เมื่อแอนดัลบุกมาก็เข้าปกครองและทำให้เกิดการแต่งงานระหว่างปฐมบุรุษและแอนดัล แต่อาณาจักรก็ยังคงมีเป็นสิบๆ อาณาจักร ตระกูลมาร์เทลก็เป็นหนึ่งในตระกูลชาวแอนดัล จนกระทั่งไนมีเรียนำชาวรอยนาร์หลบหนีจากวาไลเรียนมาแต่งงานกับมอร์ส มาร์เทลแต่ตั้งอาณาจักรปกครองดอร์นได้
Kingdom of the Rock ก่อนการรุกรานของชาวแอนดัล ไม่มีการกล่าวถึงว่าใครเป็นผู้ปกครองดินแดน Westerlands ตระกูลแลนนิสเตอร์นี่เป็นชาวแอนดัลครับ ได้แต่งงานกับบุตรีชาวราชาแห่งศิลาองค์สุดท้าย และได้อวดอ้างว่าเชื้อสายฝ่ายสตรีสืบทอดมาจากจอมลวงโลก แลนซ์ผู้ปราญเปรื่อง นอกจากนี้น่าจะยังแต่งเรื่องเล่าเกินจริงเกี่ยวกับการขโมยแสงอาทิตย์มาใส่ไว้ในเส้นผมอีกด้วย Kingdom of Stormlands Kingdom of the Reach สองอาณาจักรนี้ขอกล่าวพร้อมกันนะครับ เพราะมีเนื้อหาน้อยมาก ตระกูลไทเรลนี่เป็นปฐมบุรุษครับแต่แต่งงานกับชาวแอนดัลเพื่อไม่ให้ถูกกลืนตระกูลไป และรับเอาศาสนา/ประเพณีของแอนดัลมาเต็มๆ เหมือนตระกูลทัลลี่ ทำให้คิดไปว่าสองตระกูลนี้เป็นชาวแอนดัล ส่วนที่ไทเรลอ้างว่าเชื้อสายฝ่ายสตรีสืบทอดมาจากการ์ธ หัตถ์เขียวนั้นจะจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่อ้างเพื่อความชอบทำให้การปกครอง Reach ส่วนตระกูลการ์เดนเนอร์ กับดูแรนดอน ไม่แน่ชัดว่าเป็นตระกูลโบราณตั้งแต่ปฐมบุรุษหรือของชาวแอนดัล แต่โดยส่วนตัวแล้วน่าจะเป็นตระกูลเก่าแก่ของปฐมบุรุษเองที่กลับมามีอำนาจอีกครั้ง คือเมื่อชาวแอนดัลเข้าปกครองอาณาจักรได้แล้วนั้นไม่ได้สังหารตระกูลสำคัญของปฐมบุรุษ แต่เลือกที่จะปกครอง และแต่งงานกันเพื่อความสงบและชอบธรรม การแต่งงานทั้งหลายระหว่างชาวแอนดัลและปฐมบุรุษนี่เองที่ทำให้ประวัติของตระกูลนั้นพร่าเลือนไป แล้วในช่วงเวลากว่าหกพันปี ชนชั้นผู้นำของแอนดัลก็หมดอำนาจลง กลายเป็นชาวนา และคนธรรมดาสามัญ ในขณะที่ตระกูลใหญ่ของปฐมบุรุษที่แต่งงานกับชาวแอนดัลก็สร้างฐานอำนาจของตนจนกลับขึ้นมาเป็นชนชั้นปกครองอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ดูตรงกับที่ตระกูลการ์เดนเนอร์อ้างว่าสืบสายโดยตรงจากการ์ธ หัตถ์เขียว ในขณะที่ตระกูลดูแรนดอนก็อ้างว่าตนสืบสายโดยตรงจากดูร์แรน ทวยเทพโศกา ซึ่งเป็นปฐมบุรุษตั้งแต่ยุคแห่งวีรบุรุษนั่นเอง นอกจากนี้ ความคิดนี้ยังอ้างถึงตระกูลทัลลี่และไทเรล ที่สืบเชื้อสายปฐมบุรุษและแต่งงานกับชาวแอนดัลเพื่อรักษาตระกูลไว้ และสุดท้ายกลายมาเป็นตระกูลใหญ่อีกครั้ง
งั้น ชาวแดนเหนือที่บอกว่าเป็นเชื้อสายของปฐมบุรุษ แปลว่า ไม่เคยแต่งงานกับชาวแอนดัลหรือชาวแอนดัลไม่เคยแผ่อิทธิพลไปถึงแดนเหนือสินะ
สรุปเรื่องนี้ บรรพบรุษ แบ่งเป็นสองสายเลือดหลักที่สืบเชื้อสายมาแต่เก่าก่อน คือ แอนดัล กับ ทาร์เกเรี่ยน รึเปล่า? แต่ก็แต่งงานกับตระกูลนี้ตระกูลโน่นไปจนกลายเป็นเลือดผสมระหว่างตระกูลกันไป พูดง่ายๆ กลายเป็นลูกหลานเหลน.. ของตระกูลต่างๆ ในปัจจุบัน บ้างก็สร้างชื่อจนกลายเป็นชนชั้นสูง บ้างก็กลายเป็นเพียงชนชั้นล่างสามัญ แต่มีบรรพบุรุษร่วมกันมา ฝั่งบรรพบุรุษที่เป็นแอนดัลจึงเป็นตระกูลแห่งน้ำแข็ง สว่นทาร์เกเรี่ยนเป็นตระกูลแห่งไฟ และสุดท้ายก็ร่วมสายเลือดจากทั้งสองตระกูลน้ำแข็งและไฟ คือ บุตรของเรการ์และลีอานน่า กลายเป็น จอน สโนว์ (ทึกทักเอาเอง 555)
ไม่ใช่นะ มี 5 เผ่านะ 1 Children of forest(เด็กแห่งพงไพร) พวกนี้อยู่มาแต่เดิม 2 The first men(ปฐมบุรุษ) เข้ามารุกรานยุคที่ 1 3 Andal เข้ามารุกรานยุคที่ 2 พวกนี้เริ่มมีการใช้โลหะ ก็ตามที่คุณ Kurodoบอก 4 Rhoyna หนีพวกวารีเลียมา เข้ามาอยู่แถวๆแคว้นดอร์น 5 Valerian(เรียกตัวเองว่าสายเลือดมังกร) ธาร์เกเรียนเป็นตระกูลวารีเลียนสุดท้ายที่เหลือรอดจากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด เดิมอาศัยอยู่ที่ดราก้อนโสตน แล้วคิงเอกอนก็นำมังกรเข้ามาบุกยึดเวสเทอรอสได้ น่าจะประมาณนี้นะ
พวก Crannogman เค้าบอกว่า สืบเชื้อสายมาจากพวก Children of forest ตั้งแต่สมัยที่เด็กแห่งพงไพรรบกันกับพวกปฐมบุรุษ ประวัติคือ เด็กแห่งพงไพรใช้เวทย์มนต์พยายามทุบแผ่นดินบริเวณthe neck(คอคอด) ให้ขาดออกเพื่อกันพวกปฐมบุรุษ แต่ไม่สำเร็จทำให้เกิดเป็นบึงหนองน้ำขนาดใหญ่มากแทน หลังเหตุการณ์นี้ เด็กแห่งพงไพรกับปฐมบุรุษได้เซ็นสนธิสัญญาสงบศึกกัน พวกCrannogmanก็ได้อาศัยอยู่บริเวณthe neckนี้เรื่อยมา จริงๆมีหลายเผ่า แต่นำโดย House Reed ได้เข้าสวามิภักดิ์ต่อ House Starkนับแต่บัดนั้น โดยมีคำสาบานตนที่แปลกมาก “To Winterfell we pledge the faith of Greywater. Hearth and heart and harvest we yield up to you, my lord. Our swords and spears and arrows are yours to command. Grant mercy to our weak, help to our helpless, and justice to all, and we shall never fail you.I swear it by earth and water. I swear it by bronze and iron. “We swear it by ice and fire.”
