ช่วงนี้ไม่ได้เข้าบอร์ดทั้งวัน(แต่ยังเข้าทุกวัน) เพราะกำลังตั้งใจอ่าน 3.1 และ3.2 ที่เพิ่งถอยมาค่ะ หลังจากอ่าน3.1จบแล้วสดๆร้อนๆ ขอเม้าส์ จอน - - - จอนนี่ยังเป็นคนที่เราปลื้มมากสุดอ่ะใจเทอเป็นอีกาจริงๆ แต่ท่าทางพี่แกหลงอิกริตแบบจริงจัง ในใจก็รู้ดีว่าเขากับอิกริตไม่มีทางเป็นไปได้เพราะทัศนคติ การดำรงชีวิต ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว มีอย่างเดียวที่เข้ากันดีเซ็กส์... แบรน - - - บทแบรนในหนังสือป่วยนะเราว่า ไม่ได้มุ่งมั่นจะแสวงหาความเทพจากอีกาสามตาเท่าที่ควร หมกมุ่นกับเรื่องขาตัวเองทุกบทที่ออก ถ้าไม่มีโจเจนกับมีราป่านนี้เราว่าตายไปแล้วแน่ๆ อ่านแล้วเบื่อน้องแบรนที่สุด แต่ก็เชียร์เพราะฮีคือสตาร์คคนนึง อาร์ยา - - - กับเกรนดี้นี่จิ้นกว่าในซีรี่ย์อีกอ่ะ มีงอนกันเรื่องสาวๆหนุ่มๆที่มาใกล้ชิดด้วย ฟิน!! ตอนเจอฮาร์วินมากับพวกพี่น้องไร้ธง เราน้ำตาคลอ(อิน) เป็นเด็กชายกระจ้อยร่อยมาตั้งนานเจอคนของพ่อบ้างมันทำให้ใจหมาป่าในตัวเทอกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง อาร์ยาในหนังสือนี่ฆ่าคนตั้งแต่8ขวบ - -" โอเบอริน มาเทล - - - เริสที่สุด! อ่านเจอแค่บทเดียวชอบเลย มาดมั่นสุดๆ เถียงกับทีเรียนฉอดๆๆ ถึงสุดท้ายจะแพ้ทีเรียนอยู่ดีก็เหอะ เป็นตัวละครที่เราสนใจมากทีเดียว อยากให้ @Gutter13 วาดคนนี้จังก่อนชะตากรรมจะพรากเราจากกัน เราสงสัยอย่างนึงที่โอเบอรินคุยกับทีเรียนว่า ตอนเด็กๆเอเลียกับข้าไม่เคยแยกห่างกัน เหมือนพี่ชายกับพี่สาวท่านนั่นแหละ ที่พูดแบบนี้คือมีสัมพันธ์ระหว่าพี่น้องแบบเจมี่กับเซอซี่ด้วยหรือป่าว แต่ดูจากการคุยแล้ว ดอร์นไม่คิดจะญาติดีกับพวกแลนนิสเตอร์เลยสักนิด เมอเซลล่าลำบากแน่ๆ เจมี่ - - - เจมี่นี่ฤทธิ์เยอะจริงๆ ปากคอเราะร้ายกันทั้งตระกูล ขนาดมือด้วนนะเนี่ย เพ้อหาแต่เซอซี่ มาเจอแม่หญิงเบรียนฟางเป็นชายก็ลุกเหมือนกันละว้าาา กร๊ากก มีโกรธตัวเองอีกตะหาก 555555 แสตนนิส - - - เรามองแสตนนิสดีขึ้นเยอะเลยหลังจากได้อ่านหนังสือ เป็นพระราชาที่่ยุติธรรมคนนึงเลยนะ ใจกว้าง ดูจากการที่ปฏิบัติกับดาวอส แต่ความยุติธรรมมันก็ต้องมียืดหยุ่นกันบ้าง พี่แกเล่นตรงเป๊ะๆๆทุกอย่าง อ่านไปชื่นชมไป มาเกลียดเอาตอนสุดท้ายที่เผาปลิงตัวสุดท้ายแล้วขานชื่อ รอบบ์ สตาร์ค เนี่ยแหละ รอบบ์ - - - โอ้ววนางรอบบบ์ ชั้นไม่คิดว่าแกจะติดหญิงถึงเพียงนี้!! คู่กับแม่โง่ๆที่ปล่อยเจมี่ไปนี่บ้านเมืองมันถึงเป็นงี้ไง ราชินีรอบบ์ดูซื่อๆบื้อๆไงไม่รู้ ออกมาร้องไห้ขอตามไปด้วยพระราชาต้องมาหยุดกองทัพปลอบเมีย ทำดีทุกเรื่อง เราว่าที่ประหารคาร์สตาร์คจะไม่มีผลเลยถ้าไม่แต่งกับยัยคนนี้ ก็ยังได้พวกของรูสและพวกเฟรย์ โกรธรอบบ์ที่เอาใจเมียแล้วออกห่างจากเกรย์วิน ไม่เชื่อสัญชาตญาณสัตว์คู่ของตัวเอง อยากสมน้ำหน้าที่จุดจบมันลงเอยแบบนี้ แต่เราก็รักสตาร์คไม่อยากพูดถึงเรื่องร็อบบ์ละ เบริค ดอนแดเรียน - - - เคยตายมาแล้ววเทอรู้ไว้เลยย ร้องเป็นเพลง 555 ตายมา 6ครั้งแล้ว เราก็นึกว่าเบริคจะเป็นผู้เป็นคนตายแล้วฟื้นชิวๆ ไม่ใช่นะจ้ะ ฮีไม่กินไม่หลับไม่นอน กินเหล้าองุ่นจุบจิบ จำเรื่องราวเก่าๆของตัวเองไม่ได้ ก็ซอมบี้ที่มีคุณธรรมดีๆนี่เอง แล้วเด็กเน็ดที่มากับคณะเบริคนี่ จะมีบทสำคัญมั้ยเห็นว่าเป็นลอร์ดด้วย เกรนดี้หึงอาร์ยากับเจ้าเด็กคนนี้ซะด้วย อิอิ ทีเรียน - - - น่าสงสารจังฟร่ะ ทำไมพ่อแกไม่รักแกบ้าง ชั้นรออ่านบทแกใน3.2ก่อนค่อยมากรี๊ดกร๊าดแล้วกัน ซานซา - - - ในหนังสือนี่ชีไม่ได้คุกเข่าให้ทีเรียนคลุมผ้าให้นะน่ะ!! โดนจับแต่งเลย แบบว่าโดนหลอกให้ตัดชุด พอชุดมาก็แต่งตัวออกไปแต่งงานเลยยย...เพ้อฝันไม่หยุดหย่อนกับน้องซานซ่า ฝันว่าจะได้แต่งงานไปอยู่ไฮกาเด้นไม่ได้รู้เล้ยยว่าตัวน่ะสำคัญ พอแต่งแล้วฉากเข้าห้องอลังการกว่าในซีรี่ย์จ้าาา แบบว่าแก้ผ้าแก้ผ่อน ทีเรียนจับนมซานซ่าด้วย ยัยซานซ่าก็บรรยายตรงนั้นของทีเรียนซะน่าเกลียดเชียว อรึ๋ยย สุดท้ายก็ไม่ทำ กองเชียร์เซ็ง แดนี่ - - - บทนางค่อนข้างตรงกับในซีรี่ย์นะ ไม่มีไรมากมาย ได้ผู้ไร้มนทิน พิชิตยุนไค เจอดาริโอ นาฮาริส ในหนังสือเขาเป็นจินนี่กล้วยหรือป่าว..ชุดเหลืองเคราน้ำเงิน 5555 ลุงหมีก็หึงตะพึดตะพือสิงานนี้ ต่างจากหนังตรงที่บาริสตั้น ยังไม่เปิดเผยตัวจริงเลย ยังเป็นตาแก่เคราขาวที่มาติดตามแดนี่เท่านั้น บทนางช่างราบรื่นนักในเล่มนี้ เดี๋ยวอ่าน 3.2 จบ จะขอมาเม้าส์อีกรอบนะคะ แอบเป็นห่วงริคคอนน้อยจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่มีบทเลย ทนรอแทบไม่ไหวแล้วกับซีซั่น4 พูดเลยยย
ตอนโอเบอรินเถียงกับทีเรียนต้องสนุกมากแน่ๆ ปล. ยัยซานซ่าในหนังสือตอนที่คุณfangirisเล่าน่าหมั่นไส้จริงๆ แต่ที่เป็นซีรีส์ทำออกมาได้น่าสงสารเลย ทีเรียนก็พระเอกซะ
เด็กน้อยที่เป็นลอร์ดที่สนิทกับอาร์ยาที่สุด คือ เอดริค เดนย์ หลานของเซอร์อาร์เทอร์ เดนย์อันโด่งดังนั่นเองครับ ส่วนบทบาทนี่เงียบหายไปเลยครับ จนเล่มห้าก็ยังไม่โผล่ออกมาเลยครับ ผมแอบจิ้นกับซานเดอร์กับซานซ่ามากอ่ะ 555
ตอนโอเบอรินเถียงกับทีเรียนนี่ มันมากค่ะ แทบอยากจะคัดมาให้อ่านเลย เดี๋ยวว่างตอนบ่ายๆจะมาพิมพ์ให้ค่ะ สนุกมากกตอนนี้ ซานดอร์กับซานซ่านี่น่าจิ้นเหมือนกันนะ ตาหมาอยู่ดีๆก็มาจูบเค้าจะพาเค้าหนี ยัยซานซ่าตอนแต่งกะทีเรียนยังไปคิดว่าถ้าเป็นเจ้าหมายังดีกว่าทีเรียน 555555
ตามสูตรโอปป้ามาร์ตินสไตล์ อยู่ๆโอเบอรินมาแล้วก็เอ๊ะลุงนี่คือใครโดนจุงเบย นับเป็นความหวังใหม่ในคิงส์ แลนดิ้ง ซักพัก เห็นภาพกองถ่ายปล่อยมาแต่ฉากโอเบอรินกะภูผา แต่เดาว่าคงจะอุบผากำแพงเอาไว้แน่เลย
รู้สึกไม่ค่อยชอบแดนี่ก็ตอนไล่ลุงหมีไปนี่แหละ แทนที่จะเก็บไว้หรือไม่ก็ฆ่าทิ้งซะอย่างที่นาริโอบอกเอาไว้
เอิ่มม..จิ้นซานซ่ากะซานดอร์เหมือนกันอะ แต่อ่านบทแบรนแลดูแบรนฝันเยอะกว่าซานซ่าอีกนะ ทั้งปีศาจเอย อะไรเอย จินตนาการบรรเจิดมาก
นี่คือบทสนทนาบางส่วนที่ โอเบอรินป๊ะกับทีเรียนนะคะ เราว่ามันหนุกมาก คนที่ไม่ได้อ่านหนังสือลองอ่านดูค่ะจะได้รู้จักอสรพิษแดงก่อนซีรี่ย์จะมา ดูเหมือนมาเทลจะนำพลพรรคที่น่าเกรงขามมาด้วย ชื่อที่พ็อดเอ่ยมาทั้งหมดไม่มีตระกูลใดเล็กหรือไร้ความสำคัญเลย ลอร์ดแห่งดอร์นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเก้าตระกูลเดินทางมาตามราชมรรคา พวกเขาเองหรือทายาทของพวกเขาและทีเรียนไม่คิดว่าพวกเขาจะเดินทางไกลขนาดนี้มาเพื่อดูหมีเต้นรำเท่านั้น นี่คือการส่งสารบางอย่าง และไม่ใช่สารที่ข้าชอบด้วย เขานึกสงสัยว่าการส่งเมอเซลล่าลงเรือไปซันสเปียร์นั้นเป็นความผิดพลาดหรือปล่าว "ท่านผู้ใดคือเจ้าชายดอรันหรือ" "สุขภาพของพี่ชายข้ารั้งเขาอยู่ที่ซันสเปียร์ เจ้าชายดอรันส่งข้ามาเข้าร่วมสภาที่ปรึกษาของพระราชาจอฟฟรี่แทนพระองค์ ตามที่ฝ่าบาทต้องการ" "ฝ่าบาทจะรู้สึกเป็นเกียรติเป็นที่สุดที่ได้รับคำปรึกษาจากนักรบมีชื่ออย่างเจ้าชายโอเบอรินแห่งดอร์น" ทีเรียนพูดพลางคิดว่านี่จะหมายถึงเลือดนองแผ่นดิน "และผู้ติดตามที่ทรงเกียรติของท่านก็เป็นที่ต้อนรับอย่างที่สุดด้วยเช่นกัน" "ขอให้ข้าแนะนำพวกเขาให้ท่านรู้จักนะ นายข้าแห่งแลนนิสเตอร์ เซอร์.......(เยอะแยะมากมาย) และนี่คือ เอลลาเรีย แซนด์ ชู้รักของข้าเอง" ทีเรีียนกล้ำกลืนเสียงคราง ชู้รักของเขา เกิดมาเป็นลูกนอกสมรส เซอร์ซี่ต้องขุ่นมัวถึงขีดแน่ถ้าเขาอยากให้นางไปร่วมงานแต่งงานด้วย หากนางให้หญิงผู้นั้นไปนั่งมุมมืดข้างล่างที่ไหนสักแห่ง พี่สาวของเขาจะเสี่ยงกับการกระตุ้นโทสะอสรพิษแดง แต่ถ้าให้นางนั่งเคียงข้างเขาที่โต๊ะสูง ท่านหญิงคนอื่นๆบนยกพื้นก็น่าจะไม่พอใจ เจ้าชายดอรันต้องการจะยั่วยุให้เกิดความบาดหมางหรือนั่น เจ้าชายโอเบอรินหมุนม้าไปเผชิญหน้ากับชาวดอร์นของเขา "เอลลาเรีย ลอร์ดและท่านหญิง ท่านเซอร์ทั้งหลาย ดูเถิดว่าพระราชาจอฟฟรี่รักเราเพียงใด ฝ่าบาทเมตตาส่งภูติน้อยผู้เป็นน้าของพระองค์เองมานำเราเข้าสู่ราชสำนักเชียวนะ" บรอนกลั้นหัวเราะ และทีเรียนจำต้องฝืนทำหน้าขบขันเช่นกัน "มิใช่เพียงลำพังหรอกนายข้าทั้งหลาย นี่เป็นภารกิจใหญ่หลวงเกินไปสำหรับคนตัวเล็กอย่างข้า ขอให้ข้าแนะนำ......(เยอะมากไม่เท่าดอร์น)" ชื่อเหล่านั้นฟังดูดีขณะที่ทีเรียนเอ่ยออกมา แต่เจ้าของชื่อหาได้ประกอบเป็นคณะผู้ติดตามที่มีความโดดเด่นหรือน่าเกรงขามทัดเทียมคณะผู้ติดตามเจ้าชายโอเบอรินไม่ อย่างที่ทั้งสองฝ่ายรู้ดีแก่ใจ และขบวนก็ออกเดินทางสู่แม่น้ำและคิงส์แลนดิ้งที่อยู่ถัดออกไป โอเบอริน ไนมีรอส มาเทล ทีเรียนพึมพำเบาๆขณะเดินทางเคียงข้างชายผู้นั้น อสรพิษแดงแห่งดอร์น และนรกทั้งเจ็ดขุม ข้าควรทำอย่างไรกับเขาดี แน่นอนว่าเขารู้จักชายผู้นี้จากชื่อเสียงเท่านั้น แต่ชื่อเสียงนั้นน่าหวั่นเกรง เมื่ออายุยังไม่เกิน16 มีคนพบเจ้าชายโอเบอรินอยู่บนเตียงกับชู้รักของลอร์ดรอนวู้ดผู้เฒ่า เกิดการดวลตามมาชายทั้งสองตางได้แผล ถึงกระนั้นไม่ช้าเจ้าชายโอเบอรินก็ฟื้นตัว ในขณะที่บาดแผลของลอร์ดรอนวู้ดกลับติดเชื้อและปลิดชีวิตเขา หลังจากนั้นผู้คนก็ซุบซิบกันว่าโอเบอรินใช้ดาบอาบยาพิษในการต่อสู้และนับตั้งแต่นั้นมาทั้งมิตรและศัตรูล้วนเรียกเขาว่าอสรพิษแดง แน่นอนว่าเรื่องนี้ผ่านไปหลายปีแล้ว เด็กหนุ่มอายุสิบหกกลายเป็นบุรุษวัยล่วงสี่สิบในตอนนี้ และตำนานของเขาก็ยิ่งร้ายกาจกว่าเดิมมาก เขาท่องไปทั่วเมืองอิสระ เรียนรู้เรื่องพิษและอาจจะศาสตร์ที่มืดดำกว่านั้นด้วย เขาเข้าเป็นทหารในดินแดนพิพาทที่อีกฟากของทะเลแคบ ขี่ม้าร่วมกับกลุ่มลูกชายรองชั่วระยะหนึ่งก่อนจะตั้งกลุ่มของตัวเอง ว่ากันว่าเขานอนกับทั้งชายและหญิงและมีลูกสาวนอกสมรสไปทั่วแดนดอร์น ผู้คนเรียกลูกสาวของเขาว่า งูทราย เท่าที่ได้ยินมาเจ้าชายโอเบอรินไม่มีลูกชาย และแน่นอนเขาเป็นคนทำให้ทายาทของไฮการ์เด้นพิการ..(วิลลัส คนที่เกือบจะได้แต่งกับซานซ่า) ไม่มีชายใดในเจ็ดราชอาณาจักรที่จะได้รับการต้อนรับน้อยกว่านี้ในงานแต่งงานของพวกไทเรล การส่งเจ้าชายโอเบอรินมาคิงส์แลนดิ้งขณะที่เมืองนี้กำลังรับรองลอร์ดเมซ ไทเรล บุตรชายของเขาสองคน และนักรบหลายพันคน เป็นการยั่วยุที่อันตรายพอๆกับเจ้าชายโอเบอรินเอง แค่คำพูดผิดๆคำเดียว การล้อเล่นผิดจังหวะครั้งเดียว การสบตาแวบเดียว นั่นคือทั้งหมดที่ต้องทำ แล้วพันธมิตรผู้สูงส่งของเราก็จะห้ำหั่นกันทันที "เราเคยพบกันมาก่อน แต่ข้าไม่คาดว่าท่านจะจำได้ ตอนนั้นท่านยังตัวเล็กกว่าตอนนี้เสียอีก" น้ำเสียงของเขามีแววเยาะหยันที่ทีเรียนไม่ชอบ แต่เขาไม่ยอมให้ชาวดอร์นผู้นี้ยั่วยุเขาสำเร็จ "เมื่อไหร่หรือ นายข้า" เขาถามด้วยน้ำเสียงสนใจอย่างสุภาพ "โอ หลายต่อหลายปีมาแล้วหละ ตอนที่แม่ข้าปกครองดอร์นและลอร์ดบิดาของท่านเป็นหัตถ์ให้พระราชาอีกองค์" ไม่ได้แตกต่างกันมากอย่างที่ท่านคิดหรอก ทีเรียนนึก "ตอนนั้นข้าไปเยือนคาสเตอร์ลีร็อกกับแม่ข้า สามีของนาง กับพี่สาวข้าเอเลีย ข้าอายุ โอ สิบสี่ สิบห้า ประมาณนั้น ส่วนเอเลียแก่กว่าข้าหนึ่งปี พี่ชายกับพี่สาวของท่านอายุแปดเก้าขวบ เท่าที่ข้าจำได้ ส่วนท่านเพิ่งเกิด" "ท่านพบว่าคาสเตอร์ลีร็อกต้องรสนิยมของท่านหรือไม่ นายข้า" "แทบจะไม่เลย หลังจากสั่งให้เซอร์เคแวนดูแลรับรองเราแล้ว บิดาของท่านก็ไม่สนใจเราตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นั่น ห้องที่พวกเขาจัดให้ข้ามีเตียงขนนกให้นอนและปูพรมจากมีร์ แต่มันมืดและไม่มีหน้าต่างจะว่าไปก็เหมือนคุกไต้ดิน อย่างที่ข้าบอกเอเลียในเวลานั้น ท้องฟ้าของท่านทึมเทาเกินไป เหล้าองุ่นของท่านหวานเกินไป ผู้หญิงของท่านไร้ประสบการณ์เกินไป อาหารของท่านจืดชืดเกินไป และตัวท่านเองนั่นหละคือความผิดหวังอย่างที่สุด" "ข้าเพิ่งเกิดเท่านั้น ท่านคาดหวังสิ่งใดจากข้าหรือ" "ร่างมหึมาไงล่ะ ท่านตัวเล็ก แต่มีชื่อเสียงขจรไกล เราอยู่ที่โอลด์ทาวน์ตอนท่านเกิด และทั้งเมืองก็ร่ำลือกันแต่เรื่องปีศาจร้ายที่หัตถ์ของพระราชาให้กำเนิด และลางร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับแผ่นดิน" "ความอดอยาก โรคระบาด และสงคราม ไม่ต้องสงสัยเลย อ้อแล้วก็ฤดูหนาวด้วย กับค่ำคืนอันยาวนานไม่มีวันสิ้นสุด" "ทั้งหมดนั่น กับความตกต่ำของบิดาท่านด้วย ลอร์ดไทวินทำตัวยิ่งใหญ่เหนือพระราชาแอริส ข้าได้ยินพี่น้องขอทานคนหนึ่งเล่า แต่มีเพียงเทพเท่านั้นที่อยู่เหนือพระราชา ตัวท่านคือคำสาปของเทพ บทลงโทษที่ทวยเทพส่งมาสั่งสอนเขาว่า เขาไม่ได้ดีวิเศษไปกว่าคนอื่นๆ" "ข้าพยายาม แต่เขาไม่ยอมเรียนรู้เลย แต่พูดต่อเถิด ข้าวอนท่าน ข้าชอบฟังเรื่องสนุกๆ" "และท่านจะได้ฟัง เนื่องจากคนลือว่าท่านมีหางแข็งๆม้วนขดเหมือนหางหมู หัวโตดุจปีศาจ เราได้ยินว่าโตกว่าตัวครึ่งเท่า ท่านเกิดมามีผมและเคราดกดำ มีตาปีศาจข้างนึงกับกรงเล็บราชสีห์ ฟันยาวจนหุบปากไม่ได้ และมีอวัยวะเพศทั้งสองเพศที่หว่างขา" "ชีวิตคงง่ายกว่านี้มากถ้าผู้ชายสังวาสกับตัวเองได้ ท่านเห็นด้วยไหม และข้าก็นึกถึงเวลาสองสามครั้งที่กรงเล็บกับฟันอาจมีประโยชน์ ถึงกระนั้นข้าก็เริ่มเข้าใจความไม่พอใจของท่านแล้ว" "เราอาจไม่มีโอกาสได้เห็นท่านเลยก็ได้ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวคนสวยของท่าน ท่่านไม่เคยออกมาให้ใครเห็นที่โต๊ะอาหารหรือห้องโถง แม้ว่าบางครั้งตอนกลางคืนเราจะได้ยินเสียงเด็กทารกร้องดังมาจากส่วนลึกของร็อก ท่านมีเสียงดังน่ากลัวทีเดียว ข้าต้องยอมรับข้อนั้นท่านจะร้องไห้อยู่หลายชั่วโมง และไม่มีอะไรทำให้ท่านเงียบได้นอกจากหัวนมของสตรี" "ตามที่ปรากฏ นั่นก็ยังเป็นความจริงเสียด้วย" โอเบอรินหัวเราะ "เป็นรสนิยมที่เรามีร่วมกัน ลอร์ดการ์กาเลนเคยบอกข้าว่าเขาหวังจะตายโดยถือดาบไว้ในมือ ซึ่งข้าตอบไปว่าข้าอยากตายคาอกสตรีมากกว่า" ทีเรียนยิ้ม "ท่านกำลังพูดถึงพี่สาวข้าอยู่ใช่มั้ย" "เซอร์ซี่สัญญากับเอเลียว่าจะนำท่านมาให้เราดู เธอกับเจมี่พาเราลงไปที่ห้องเด็กแม่นมของท่่านพยายามไล่เราออกไป แต่พี่สาวของท่านไม่ยอมฟัง เขาเป็นของข้า เธอว่า ส่วนเจ้าเป็นแค่นางวัวนมเจ้าสั่งให้ข้าทำอะไรไม่ได้ หุบปากซะ ไม่งั้นข้าจะให้พ่อข้าตัดลิ้นเจ้า แม่วัวไม่ต้องมีลิ้นหรอกมีแค่เต้านมก็พอ" "ราชินีฝึกเสน่ห์มาตั้งแต่เด็กทีเดียว" นึกขำที่พี่สาวอ้างสิทธิ์ว่าเขาเป็นของนาง "เซอร์ซี่ถึงขั้นแกะผ้าอ้อมของท่านออกเพื่อให้เราเห็นชัดๆ ท่านมีตาปีศาจข้างหนึ่งจริงๆ และมีผมสีดำยุ่งๆ แต่ไม่มีหาง ไม่มีเครา ไม่มีฟันหรือกรงเล็บ และไม่มีอะไรอยู่ตรงหว่างขาของท่านนอกจากเจ้าจ้อนเล็กๆสีชมพู ชะตากรรมต้องสาบของลอร์ดไทวินกลับเป็นแค่ทารกตัวแดง น่าเกลียด ขาสั้นม่อต้อ เอเลียถึงขนาดทำเสียงที่ชอบทำเวลาเห็นทารกน้อย เสียงแบบที่พวกนางชอบทำเวลาเห็นลูกแมวน่ารักและลูกหมาขี้เล่น เมื่อข้าบอกว่าท่านดูเป็นปีศาจที่ไม่น่ากลัวเท่าไรนัก พี่สาวของท่านก็พูดว่า เขาฆ่าแม่ข้า และบิดเจ้าจ้อนเล็กๆของท่านอย่างแรงจนข้าคิดว่าเธอจะดึงมันออก ท่านกรีดร้อง จนเจมี่พี่ชายของท่านบอกว่า ปล่อยแกเถอะ เจ้าทำให้แกเจ็บนะ เธอจึงยอมปล่อยท่าน เธอบอก ไม่เป็นไรหรอก ทุกคนบอกว่าเขาน่าจะตายในไม่ช้า เขาไม่ควรอยู่ได้นานขนาดนี้ด้วยซ้ำ" ทีเรียน แลนนิสเตอร์รู้สึกเย็นเยือกไปทั่วสรรพางค์เมื่อได้ฟัง พี่สาวคนสวยของข้า.. เอาหละ ทำไมเขาถึงเล่าเรื่องอย่างนั้นให้ฟัง เขากำลังทดสอบข้าหรือแค่บิดเจ้าจ้อนของข้าอย่างที่เซอร์ซี่ทำเพื่อที่จะได้ฟังข้ากรีดร้อง "อย่าลืมเล่าเรืองนี้ให้พ่อข้าฟังล่ะ ท่านพ่อคงสนุกมากพอๆกับข้า โดนเฉพาะตอนที่พูดถึงหางของข้า ข้ามีหางจริงๆนะแต่ข้าสั่งให้ตัดมันออก" "ท่านโตขึ้นมาเป็นคนร่าเริงกว่าครั้งสุดท้ายที่เราพบกันนะ" "ใช่ แต่ข้าตั้งใจจะตัวสูงกว่านี้ต่างหาก" "ข้าได้ข่าวน่าสนใจจากพ่อบ้าน เขาอ้างว่าท่านเรียกเก็บภาษีจากกระเป๋าลับของพวกผู้หญิง" "มันคือภาษีที่เก็บจากการเป็นนางโลม" ทีเรียนบอก รุ้สึกขุ่นมัวขึ้นมาอีกครั้ง และนั่นเป็นความคิดของพ่อข้า "ก็แค่คนละสตางค์แดงต่อ เอ้อ..แต่ละครั้งเท่านั้น หัตถ์ของพระราชารู้สึกว่านั่นอาจช่วยปรับปรุงศีลธรรมของเทืองนี้ได้" "ข้าจะดูให้แน่ใจว่ามีสตางค์แดงเต็มกระเป๋า แม้แต่เจ้าชายก็ต้องจ่่ายภาษี" "แล้วเหตุใดท่านต้องใช้บริการจากนางโลมด้วยเล่า ท่านเบื่อชู้รักของท่านแล้วหรือ" "ไม่มีวัน เราแบ่งปันกันมากเกินไป แต่เราไม่เคยแบ่งปันหญิงงามผมบลอนด์กัน และเอลลาเรียก็อยากรู้อยากเห็น ท่านรู้จักผู้หญิงพวกนั้นมั้ย" "ข้าเป็นชายที่แต่งงานแล้ว" แม้จะยังไม่ได้เธอ "ข้าไม่ไปหาพวกนางโลมอีกแล้ว" เว้นแต่ข้าอยากเห็นพวกนางถูกแขวนคอ "ว่ากันว่ามีอาหารเจ็ดสิบเจ็ดอย่างในงานเลี้ยงแต่งงานของพระราชา" "ท่านหิวหรือเจ้าชายของข้า" "ข้าหิวมานานแล้ว แม้จะไม่ได้หิวอาหาร โปรดบอกข้าทีว่าเมื่อไหร่ข้าจะได้รับความยุติธรรม" "ความยุติธรรม" ใช่ นั่นคือเหตุผลที่เขามาที่นี่ ข้าน่าจะดูออกทันที "ท่านสนิทกับพี่สาวท่านหรือไม่" "ตอนเด็กๆ เอเลียกับข้าไม่เคยแยกห่างจากกัน เหมือนพี่ชายกับพี่สาวของท่านนั่นแหละ" ทวยเทพ ข้าหวังว่าจะไม่.. "สงครามและการแต่งงานทำให้เราวุ่นวายมากทีเดียว เจ้าชายโอเบอริน ข้าเกรงว่ายังไม่มีใครมีเวลาสืบเรื่องการฆาตกรรมที่ผ่านมาแล้วสิบหกปี ถึงจะสะเทือนขวัญเพียงใดก็ตาม แน่นอนว่าเราจะจัดการทันทีที่ทำได้ และความช่วยเหลือใดๆที่ดอร์นอาจมอบให้เราได้เพื่อฟื้นฟูสันติภาพของพระราชาย่อมช่วยเร่งให้ลอร์ดบิดาของข้าดำเนินการสอบสวน.." "คนแคระ ขออย่าเอ่ยคำลวงของแลนนิสเตอร์กับข้าเลย เจ้าคิดว่าเราเป็นแกะหรือคนโง่งมหรือไง พี่ชายข้าไม่ใช่คนกระหายเลือด แต่เขาก็ไม่ได้นอนมาสิบหกปีแล้ว จอน แอร์ริน มาที่ซันสเปียร์หนึ่งปีหลังโรเบิร์ตขึ้นครองบัลลังก์ และท่านก็มั่นใจได้ว่าเขาถูกสอบถามอย่างละเอียด เขากับคนอื่นๆอีกเป็นร้อย ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อชมการแสดง การสอบสวนของพวกนักแสดงละครใบ้นะ ข้ามาทวงความยุติธรรมให้เอเลียกับลูกๆของนาง และข้าจะต้องได้มัน เริ่มจากเกรกอร์ คลิแกน หน้าโง่ผู้นี้ แต่ข้าไม่คิดว่าจะหยุดที่เขาหรอกนะ ก่อนเขาจะตาย เจ้าชาติชั่วบนหลังม้าจะบอกข้าว่าคำสั่งที่เขาได้รับนั้นมาจากใคร โปรดรับรองกับลอร์ดบิดาของท่านถึงเรื่องนั้นด้วย" เขายิ้ม "บาทหลวงคนหนึ่งเคยอ้างว่าข้าคือหลักฐานที่มีชีวิตแห่งความดีงามของทวยเทพ ท่านรู้ไหมว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ภูติน้อย" "ไม่" "ก็เพราะถ้าทวยเทพโหดร้าย ก็คงบันดาลให้ข้าเป็นลูกคนแรกของแม่ข้าและดอรันเป็นลูกคนที่สาม ข้าเป็นคนกระหายเลือดไงล่ะ และข้าก็คือคนที่ท่านต้องเผชิญในตอนนี้ ไม่ใช่พี่ชายที่อดทน รอบคอบ และเป็นโรคปวดข้อของข้า" "ท่านพูดเหมือนคนที่มีทัพใหญ่หนุนหลัง แต่ทั้งหมดที่ข้าเห็นมีแค่สามร้อยเท่านั้น ท่านเห็นเมืองตรงนั้นหรือไม่ ทางเหนือของแม่น้ำน่ะ" "กองอาจมที่ท่านเรียกว่าคิงส์แลนดิ้งน่ะหรือ" "นั่นแหละ" "ข้าไม่เพียงแค่เห็นมันเท่านั้น แต่ตอนนี้ยังได้กลิ่นมันด้วย" "ถ้าอย่างนั้นก็สูดดมให้ดีเถิดนายข้า สูดให้เต็มจมูก ท่านจะพบว่าคนครึ่งล้านน่ะส่งกลิ่นเหม็นกว่าคนสามร้อย ได้กลิ่นผ้าคลุมไหล่ทองมั้ย พวกเขามีกันเกือบห้าพันคนนะ นักดาบผู้สาบานตนของพ่อข้ามีอีกสองหมื่นและไหนยังจะพวกกุหลาบอีก กุหลาบน่ะมีกลิ่นหอมนักใช่มั้ย โดยเฉพาะเมื่อมีจำนวนมากๆ ห้า หก หรือเจ็ดหมื่นดอกในเมือง หรือตั้งค่ายอยู่นอกเมือง ข้าเองก็บอกไม่ได้ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่แต่ยังไงก็มากกว่าที่ข้าอยากจะนับ" "ในดอร์นสมัยโบราณก่อนที่เราจะแต่งงานกับเดรอน ว่ากันว่าดอกไม้ทั้งหมดค้อมคำนับดวงอาทิตย์ ถ้ากุหลาบพวกนั้นคิดจะขวางข้า ข้าก็ยินดีที่จะเหยียบย่ำมันให้แหลกคาเท้า" "เหมือนที่ท่านเหยียบวิลลัส ไทเรลงั้นหรือ" ชาวดอร์นไม่ได้มีปฏิกริยาอย่างที่เขาคาด "ข้าได้รับจดหมายจากวิลลัสไม่ถึงครึ่งปีที่ผ่านมา เรามีความสนใจร่วมกันเรื่องม้าพันธุ์ดี เขาไม่เคยคิดผูกใจเจ็บข้าเรื่องที่เกิดขึ้นในสนามประลอง ข้าฟาดเกราะอกเขาอย่างจัง แต่เท้าเขาติดโกลนตอนร่วงตกและถูกม้าล้มทับ ข้าส่งเมสเตอร์ผู้หนึ่งไปดูอาการเขาหลังจากนั้น ถ้าจะมีใครถูกตำหนิคนผู้นั้นก็คือพ่อที่โง่เง่าของเขา ดอกไม้อ้วนส่งเขาเข้าประลองยุทธ์ตั้งแต่อายุน้อยเกินไปเหมือนที่ทำกับลูกอีกสองคน เขาอยากได้ลีโอ ลองธอร์นอีกคน แต่กลับทำให้ลูกตัวเองต้องพิการ" "มีคนบอกว่าเซอร์ลอลัส เก่งกว่าลีโอ ลองธอร์น" "กุหลาบน้อยของเรนลีหรือ ข้าสงสัยข้อนั้นอยู่" "เชิญสงสัยตามสบายเถิด แต่เซอร์ลอลัสกำราบอัศวินเก่งๆมากมายหลายคน รวมทั้งเจมี่พี่ชายข้าด้วย" "คำว่ากำราบนั่น ท่านหมายถึงทำให้ตกม้าในการประลองยุทธ์ ไหนบอกข้ามาซิว่าเขาสังหารใครในการรบ ถ้าท่านคิดจะขู่ข้า" "เซอร์โรบาร์ รอยซ์ กับเซอร์เอ็มมอน คาย สองคนหละ และคนพูดกันว่าเขาประสบความสำเร็จใหญ่หลวงในการแสดงความกล้าหาญที่สมรภูมิแม่น้ำทมิฬ โดยต่อสู้เคียงข้างปีศาจของเรนลี" "งั้นคนกลุ่มเดียวกันกับที่เห็นความสำคัญใหญ่หลวงนั่นก็เห็นปีศาจเขาด้วยงั้นสิ" ชาวดอร์นหัวเราะเบาๆ ทีเรียนมองเขานิ่งนาน "ซ่องของชาตายาบนถนนผ้าไหมมีเด็กสาวหลายคนที่อาจสนองความต้องการของท่านได้ แดนซีมีผมสีน้ำผึ้ง ของมรีสีทองอ่อนจาง ข้าแนะนำให้ท่านมีนางคนใดคนหนึ่งเคียงกายตลอดเวลานายข้า" "ตลอดเวลาหรือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเล่า ภูติน้อยผู้ประเสริฐ" "ก็ท่านบอกว่าท่านประสงค์จะตายคาอกสตรีนี่" ทีเรียนเร่งม้าไปข้างหน้ายังจุดที่เรือข้ามฟากรออยู่ เขาได้ทนทุกอย่างที่ต้องทนในสิ่งที่พอจะเรียกได้ว่าไหวพริบของชาวดอร์นแล้ว ท่านพ่อควรส่งจอฟฟรี่มาเอง เขาจะได้ถามเจ้าชายโอเบอรินว่ารู้หรือปล่าวว่าชาวดอร์นแตกต่างจากขี้วัวตรงไหน นั่นทำให้เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาจะต้องพาตัวไปอยู่ที่นั่นด้วยตอนที่อสรพิษแดงเข้าเฝ้าพระราชา จบบทนี้ค่ะ เราก็หวังว่าจะพาตัวไปอยู่ด้วยตอนโอเบอรินเจอจอฟฟรี่ ฮ่าๆๆๆ
@Fangiris เค้าอยากดูแล้ว!!! /ดีดดิ้น ทุรนทุราย... ปล. โฮดอร์-แดนี ยังดีกว่า โฮดอร์-คุณหมอหนุ่ม หรือ โฮดอร์-ผู้ชายในบอร์ดนะ
อยากเหมือนกันค่ะ ทุรนทุรายไม่ต่างกันเลย นี่เดี๋ยวอ่าน3.2จบต้องตายคาหนังสือแน่ๆ ลงแดง ไม่รู้4.1จะออกเมื่อไหร่ กว่าซี่รี่ย์จะออกอีก
จริงๆก็อ่านมามั่งเหมือนกันแหละกับ3.2พอมาเจอบทแดนี่ไล่ลุงหมีไปแล้วมันไม่อยากอ่านต่อแล้วอ่ะทั้งๆที่มันเป็นบทท้ายๆแล้วด้วย